ยิ่งใกล้วันจากลา ยิ่งเปล่งประกาย สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ หลังมีส่วนสำคัญ ในเกม คัมแบ็ค มีชัย เหนือ พาเลซ

เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) เหลือเวลาอีกเพียงสามเกมที่จะได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่สนาม เอทิฮัด สเตเดียม (Etihad Stadium) หากได้รับการคัดเลือกให้ลงสนาม นั่นหมายความว่าแฟนบอลของ ซิตี้ (City) จะมีโอกาสอีกเพียงสามครั้งที่จะได้ปรบมือให้เขายืนขึ้น เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกโดย เจเรมี่ โดกู (Jeremy Doku) สามนาทีก่อนจบเกมในชัยชนะ 5-2 เหนือ คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) อีกสามโอกาสสำหรับ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ที่จะได้แสดงความขอบคุณต่อแฟนๆ เหล่านั้นและโบกมือจากสนามไปยังลูกๆ ของเขา ซึ่งได้ชมการแสดงฝีเท้าขั้นเทพของเขาในแบบฉบับเดิม หนึ่งทศวรรษแห่งการรับใช้สโมสรกำลังจะสิ้นสุดลง ทั้งคำพูดและการกระทำ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) มุ่งมั่นที่จะไม่ให้ช่วงเวลาของเขาที่ ซิตี้ (City) จบลงอย่างไม่สมศักดิ์ศรี “ผมอยากจะจากไปพร้อมกับการได้โควตา แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) สำหรับทีมนี้เพราะพวกเขาสมควรได้รับมัน”

 

เท้าคู่นี้บอกทุกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์และมรดกอันยิ่งใหญ่ที่เขาทิ้งไว้ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) ไม่ใช่คนที่ชอบตะโกนหรือกรีดร้อง เขาไม่ได้อยู่ในแบบฉบับของกัปตันทีมอย่าง รอย คีน (Roy Keane) หรือ ปาทริค วิเอร่า (Patrick Vieira) ที่นำทีมด้วยการเรียกร้องอย่างเข้มข้นควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เป็นนักกีฬาในแบบที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) เคยเป็น แต่เขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ จากความว่างเปล่าด้วยการผสมผสานระหว่างการรับรู้และการลงมือทำ เขาเป็นนักเตะที่มองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

จากนั้นเขาก็สามารถส่งมอบได้อย่างแม่นยำ สิ่งนี้ยกระดับเขาไปสู่ระดับของเกมที่แทบจะแยกออกจากผู้เล่นทุกคน นี่คือเหตุผลที่ว่า แม้การถกเถียงจะไร้ประโยชน์และไม่มี ‘ผู้ชนะ’ แต่เขาก็ต้องอยู่ในการสนทนาเกี่ยวกับนักเตะที่ดีที่สุดในยุค พรีเมียร์ลีก (Premier League) ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ทศวรรษที่สี่แล้ว สโบเบ็ตออนไลน์ และนี่คือเหตุผลที่ว่า เมื่อถูกถามว่า เจมส์ แมคอาที (James McAtee) ซึ่งทำประตูได้ในการเริ่มต้นเกม พรีเมียร์ลีก (Premier League) ครั้งแรก อาจจะเติมเต็มรองเท้าของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ในฤดูกาลหน้าหรือไม่ คำตอบของ กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) จึงเต็มไปด้วยความสงสัย สโบเบ็ตออนไลน์ “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กล่าว “เควิน (Kevin) มีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร มีวิสัยทัศน์ในการส่งบอล เมื่อนักเตะอยู่ด้านหน้าและ เควิน (Kevin) มีบอล พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถวิ่งได้เพราะบอลจะถูกส่งไปถึง” “เขาไม่ใช่ผู้นำที่ใช้คำพูด แต่ในเก้าปี เขาอยู่ที่นั่นทุกๆ สามวัน” มาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหนต่อไป’ ในไม่ช้า เขาจะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป อนาคตของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยังเป็นที่ไม่ทราบแน่ชัด มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (Major League Soccer หรือ MLS) และล่าสุดคือ อินเตอร์ ไมอามี (Inter Miami) แม้ว่าในบางแง่มุม แนวคิดเกี่ยวกับ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ในทีมเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) ดูเหมือนจะเป็นการสูญเปล่า เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเล่นเป็นรองใคร แม้แต่หนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล เขาจะหาข้อสรุปด้วยวิธีที่เงียบสงบของเขาเอง เดอ บรอยน์ (De Bruyne) แน่นอนว่ายังคิดว่าเขายังมีอะไรจะเสนอ “เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ผมไม่มีอาการเจ็บปวดในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมาและนั่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก” เขาบอกกับ ทีเอ็นที สปอร์ตส์ (TNT Sports) “ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกอย่างไร [ในเกมสุดท้ายของผม] – ผมอยู่ที่นี่มานานมาก ลูกๆ ของผมเกิดที่ แมนเชสเตอร์ (Manchester) และใช้ชีวิตทั้งหมดที่นี่ มันจะแตกต่างสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขากลัวเล็กน้อย” “แต่ถ้าผมสามารถเล่นฟุตบอลและครอบครัวของผมมีความสุข ผมก็ดี ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ผมต้องการเล่นต่อ ดังนั้นเรามาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหน”

 

เควิน เดอ บรอยน์  จักรวาลแห่งพรสวรรค์บนสนามหญ้า

 

ในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยดาวเด่นมากมาย มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถครองตำแหน่งอันทรงเกียรติเหนือกาลเวลาได้ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) คือหนึ่งในนั้น กองกลางชาว เบลเยียม (Belgium) ผู้นี้ได้สร้างมรดกอันยิ่งใหญ่ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความสามารถในการส่งบอลที่แม่นยำราวกับมีเรดาร์ในสมอง ความยิ่งใหญ่ของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ไม่ได้อยู่ที่การแสดงออกทางอารมณ์หรือการตะโกนสั่งการบนสนาม แต่อยู่ที่การแสดงออกผ่านฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขา ไม่เหมือนกับบรรดากัปตันในอดีตอย่าง รอย คีน (Roy Keane) หรือ ปาทริค วิเอร่า (Patrick Vieira) ที่นำทีมด้วยพลังและความดุดัน เดอ บรอยน์ (De Bruyne) นำด้วยการแสดงให้เห็นมากกว่าการพูด ทุกๆ การเคลื่อนไหว ทุกๆ การส่งบอล ล้วนเป็นบทเรียนสำหรับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่ได้ชม เป็แเวลาเก้าปีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ได้รับประโยชน์จากพรสวรรค์อันเหนือธรรมดาของเขา เขาไม่ได้เป็นนักกีฬาที่มีร่างกายกำยำบึกบึนอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) แต่สิ่งที่เขามีคือสมองอันชาญฉลาดที่มองเห็นช่องว่างและโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น และเท้าที่สามารถส่งบอลได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดหรือมุมใด เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ถูกถามว่า เจมส์ แมคอาที (James McAtee) ดาวรุ่งที่ทำประตูได้ในการเริ่มต้นเกม พรีเมียร์ลีก (Premier League) ครั้งแรก จะสามารถทดแทน เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ได้หรือไม่ในฤดูกาลหน้า คำตอบของเขานั้นชัดเจนและเต็มไปด้วยความเคารพต่อกองกลางชาว เบลเยียม (Belgium) “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น “เควิน (Kevin) มีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร มีวิสัยทัศน์ในการส่งบอล เมื่อนักเตะอยู่ด้านหน้าและ เควิน (Kevin) มีบอล พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถวิ่งได้เพราะบอลจะถูกส่งไปถึง” เหล่านี้ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง แต่เป็นการยอมรับในความจริงที่ว่า เดอ บรอยน์ (De Bruyne) คือผู้เล่นที่พิเศษอย่างแท้จริง หากจะพูดถึงนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ซึ่งตอนนี้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่สี่แล้ว ชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะต้องถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้นำที่ใช้คำพูด แต่การปรากฏตัวของเขาในทุกๆ สามวันตลอดเก้าปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นที่เขามีต่อสโมสร นี่คือภาวะผู้นำในรูปแบบที่เงียบสงบแต่ทรงพลัง เมื่อฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะจากไป ทิ้งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) และแฟนบอลต้องหาทางปรับตัวกับชีวิตที่ไม่มีเขา อนาคตของเขายังคงเป็นที่คาดเดาไม่ได้ มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการย้ายไปเล่นใน เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (Major League Soccer หรือ MLS) และล่าสุดคือ อินเตอร์ ไมอามี (Inter Miami) สโมสรที่มี ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลร่วมทีมอยู่ อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่าการที่ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) จะไปเล่นในทีมเดียวกับ เมสซี่ (Messi)อาจเป็นการสูญเปล่า เพราะนักเตะระดับเขาไม่ควรอยู่ในฐานะตัวประกอบให้กับใคร แม้แต่กับ เมสซี่ (Messi) เอง ในขณะที่โลกของฟุตบอลเฝ้ารอดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของเขา เดอ บรอยน์ (De Bruyne) เองก็ดูเหมือนจะยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจคือเขายังต้องการเล่นฟุตบอลต่อไป “เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ผมไม่มีอาการเจ็บปวดในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมาและนั่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก” เขากล่าวกับ ทีเอ็นที สปอร์ตส์ (TNT Sports) “ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรในเกมสุดท้ายของผม – ผมอยู่ที่นี่มานานมาก ลูกๆ ของผมเกิดที่ แมนเชสเตอร์ (Manchester) และใช้ชีวิตทั้งหมดที่นี่ มันจะแตกต่างสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขากลัวเล็กน้อย” ความกังวลของลูกๆ ของเขาสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่การย้ายทีมของเขาจะมีต่อไม่เพียงแค่ชีวิตของเขาเอง แต่ยังรวมถึงครอบครัวของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยืนยันว่า “แต่ถ้าผมสามารถเล่นฟุตบอลและครอบครัวของผมมีความสุข ผมก็ดี ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ผมต้องการเล่นต่อ ดังนั้นเรามาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหน” ไม่ว่า เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะเลือกไปเล่นที่ไหนต่อไป สิ่งที่แน่นอนคือมรดกที่เขาทิ้งไว้ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) จะไม่มีวันถูกลืม ในช่วงเวลาเก้าปีกับสโมสร เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่เคยเล่นในลีกอังกฤษ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร ความแม่นยำในการส่งบอล และความสามารถในการสร้างโอกาสจากความว่างเปล่า ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เตรียมพร้อมสำหรับยุคหลัง เดอ บรอยน์ (De Bruyne) คำพูดของ กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) ยังคงก้องอยู่ในใจของแฟนบอลทุกคน: “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” เพราะในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยดาวเด่นมากมาย บางครั้งก็มีดาวดวงหนึ่งที่ส่องสว่างเหนือดวงอื่น ๆ และ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) คือหนึ่งในดวงดาวเหล่านั้น

 

เมมฟิส เดปาย

เดปายวิจารณ์ สมาคมฟุตบอลบราซิล ที่ห้ามใช้ทักษะยืนบนลูกฟุตบอล

เมมฟิส เดปาย (Memphis Depay) กองหน้าชาวดัตช์ของสโมสร คอรินเธียนส์ (Corinthians) ได้แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยต่อการตัดสินใจล่าสุดของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่ออกกฎห้ามนักฟุตบอลยืนบนลูกฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน กฎใหม่นี้ระบุว่านักฟุตบอลที่ยืนบนลูกด้วยเท้าทั้งสองข้างจะถูกลงโทษด้วยใบเหลืองทันที และทีมคู่แข่งจะได้รับฟรีคิกทางอ้อม การประกาศนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่นหลายคนรวมถึงเดปาย ซึ่งมองว่าเป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการเล่นฟุตบอล เหตุการณ์ที่นำไปสู่การออกกฎครั้งนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เปาลิสตา เอ1 (Paulista A1) ระหว่าง คอรินเธียนส์ และ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 เมื่อ เดปาย (Depay) ทำท่ายืนบนลูกฟุตบอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บใกล้ธงมุม หลังจากที่ทำท่าหลอกว่าจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลีลาดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่น ปาล์มไมรัส (Palmeiras) อย่างมาก จนนำไปสู่การปะทะกันระหว่างทั้งสองทีม tek789 ความวุ่นวายดังกล่าวส่งผลให้ มาร์เซโล ลอมบา (Marcelo Lomba) ผู้รักษาประตูสำรองของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) และ โฮเซ่ มาร์ติเนซ (Jose Martinez) กองกลางของ คอรินเธียนส์ (Corinthians) ถูกไล่ออกจากสนามหลังจากที่ผู้ตัดสินได้ทบทวนสถานการณ์ผ่านระบบ VAR เป็นเวลานาน การทะเลาะวิวาทครั้งนี้ทำให้มีการเพิ่มเวลาทดเวลาบาดเจ็บถึง 18 นาที ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างมากสำหรับการแข่งขันฟุตบอล

 

สมาคมฟุตบอลบราซิล ร่อนจดหมายชี้ สกิลยืนบนลูกบอล ถือเป็นการยั่วยุและไม่เคารพคู่แข่ง

 

สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ได้ออกจดหมายชี้แจงไปยังสโมสรต่างๆ โดยระบุว่าการยืนบนลูกฟุตบอลเป็น “การยั่วยุคู่แข่งและแสดงความไม่เคารพต่อเกมการแข่งขัน”  จึงจำเป็นต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต เดปาย (Depay) วัย 31 ปี อดีตกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายนี้และได้แสดงความคิดเห็นผ่านบัญชี เอ็กซ์ (X) ของเขา โดยระบุว่า “ผมไปเล่นที่ บราซิล เพื่อสัมผัสประสบการณ์ โฆโก โบนิโต้ (Jogo Bonito) [เกมที่สวยงาม] ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ สมาคมฟุตบอลบราซิล tek789 ประกาศเมื่อวานนี้ว่าไม่มีนักเตะคนใดสามารถยืนบนลูกฟุตบอลได้ หรือนักเตะจะได้รับใบเหลือง” เดปาย (Depay) ยังเน้นย้ำว่าแม้ท่าทางดังกล่าวไม่ใช่ “ปัจจัยสำคัญในฟุตบอล” แต่เขา “ไม่เห็นปัญหา” กับการแสดงทักษะในลักษณะนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า บราซิล เป็นประเทศที่มี “ความสามารถมากมาย” และ “ความสุขและความหลงใหลในการแสดงออกของเราในสนามไม่ควรถูกจำกัด” นักเตะชาวดัตช์ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับคณะกรรมการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ว่า “ใครกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศฟุตบอลที่สวยงามนี้?” พร้อมเรียกร้องให้มุ่งเน้นที่ “กฎที่สามารถพัฒนากีฬาและมุ่งเน้นที่ด้านธุรกิจของฟุตบอล สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสโมสร แฟนๆ และนักเตะ แทนที่จะเป็นประกาศที่ไร้สาระเหล่านี้” การสนับสนุนจากนักเตะคนอื่นและผลกระทบต่อวัฒนธรรมฟุตบอลบราซิล ความคิดเห็นของ เดปาย (Depay) ได้รับการสนับสนุนจากนักเตะดังคนอื่นๆ รวมถึง เนย์มาร์ (Neymar) ซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิลที่ปัจจุบันเล่นให้กับ ซานโตส (Santos) หลังจากกลับมาจาก อัล-ฮิลาล (Al-Hilal) ในซาอุดีอาระเบีย เนย์มาร์ (Neymar) ได้แสดงความไม่พอใจผ่านบัญชี อินสตาแกรม (Instagram) ของเขา โดยระบุอย่างสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “ฟุตบอลกำลังน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ” ความขัดแย้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างวัฒนธรรมฟุตบอลดั้งเดิมของ บราซิล ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ ทักษะส่วนบุคคล และความสนุกสนาน กับแนวทางการบริหารจัดการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่มุ่งเน้นความมีระเบียบวินัยและการควบคุมเพื่อลดความขัดแย้งในสนาม บราซิล เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านฟุตบอลที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้น โดยมีตำนานอย่าง เปเล่ (Pele), การ์รินชา (Garrincha), โรนัลดินโญ (Ronaldinho) และ เนย์มาร์ (Neymar) ที่มีชื่อเสียงในการแสดงทักษะที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกตื่นตาตื่นใจ การที่ผู้เล่นสามารถแสดงความสามารถพิเศษในสนามถือเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ฟุตบอลของ บราซิล ที่เรียกว่า “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) หรือ “เกมที่สวยงาม” มุมมองที่แตกต่างและความท้าทายในการรักษาสมดุล อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายที่สนับสนุนการตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) โดยมองว่าการแสดงทักษะบางอย่างอาจนำไปสู่ความตึงเครียดและความรุนแรงในสนาม พวกเขาเชื่อว่าท่าทางที่อาจถูกมองว่าเป็นการเยาะเย้ยคู่แข่งควรถูกจำกัดเพื่อรักษาน้ำใจนักกีฬาและความเคารพซึ่งกันและกัน อเบล เฟอร์เรรา (Abel Ferreira) โค้ชของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) ที่พ่ายแพ้ในเกมนั้น แสดงความไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของ เดปาย (Depay) โดยกล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “มีความแตกต่างระหว่างความสร้างสรรค์กับการไม่เคารพ ฟุตบอลเป็นเรื่องของการแสดงความสามารถ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของความเคารพต่อคู่แข่ง” ความท้าทายสำหรับวงการฟุตบอลบราซิลและทั่วโลกคือการรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการแสดงทักษะกับการรักษาความเป็นมืออาชีพและน้ำใจนักกีฬา ในขณะที่มีผู้เล่นหลายคนต่อต้านการห้ามใช้ทักษะที่สร้างสรรค์ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าควรมีขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกมกลายเป็นการเผชิญหน้าที่รุนแรง

 

ผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลบราซิล หลังมีการออกมาแบน สกิลฟุตบอลเช่นนี้

 

การตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลในประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนาผู้เล่นรุ่นใหม่ที่อาจรู้สึกว่าถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ นักวิจารณ์หลายคนกังวลว่าการบังคับใช้กฎที่เข้มงวดเกินไปอาจทำลายเอกลักษณ์ของฟุตบอลบราซิลที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ในขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ยืนยันว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการส่งเสริมการเล่นที่ยุติธรรมและเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การจำกัดความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาเชื่อว่าการมีกฎที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความขัดแย้งและรักษาภาพลักษณ์ของลีกบราซิล ความขัดแย้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่กว้างขึ้นในวงการฟุตบอลทั่วโลก ที่พยายามรักษาสมดุลระหว่างความบันเทิงกับความเป็นมืออาชีพ ระหว่างการแสดงออกส่วนบุคคลกับการเคารพต่อคู่แข่ง และระหว่างประเพณีกับความทันสมัย ในขณะที่การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป แฟนฟุตบอลทั่วโลกจับตามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อลีลาการเล่นของนักฟุตบอลบราซิลในระยะยาวอย่างไร และวัฒนธรรม “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) ที่ทำให้ บราซิล เป็นที่รักของแฟนฟุตบอลทั่วโลกจะยังคงอยู่หรือจะค่อยๆ เลือนหายไปภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี (Sandro Tonali) ยิงประตูสุดสวยและ อเล็กซานเดอร์ อิซัค (Alexander Isak) ทำประตูที่ 20 ของเขาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ช่วยให้นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) บุกเอาชนะเบรนท์ฟอร์ด (Brentford) 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เสริมความหวังในการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แทงบอลออนไลน์

โตนาลียิงประตูชัยในนาทีที่ 74 จากมุมแคบใกล้เส้นข้างทางด้านขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย จนผู้รักษาประตูเบรนท์ฟอร์ด มาร์ก เฟล็คเค่น หมดสิทธิ์ป้องกัน

“พูดตามตรง มันเป็นการครอส 70% และยิง 30%” กองกลางทีมชาติอิตาลีกล่าว “มันเป็นจังหวะที่ยากสำหรับผู้รักษาประตู และก็ยากสำหรับผมด้วย แต่ก็มีโชคนิดหน่อย”

อิซัคทำประตูที่ 20 ของเขาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยการเข้าชาร์จลูกเปิดของ เจค็อบ เมอร์ฟี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก หลังจาก ไบรอัน เอ็มบิวโม แข้งเบรนท์ฟอร์ดที่เป็นเป้าหมายเสริมทัพของนิวคาสเซิล พลาดเสียบอล

ก่อนหน้านี้ กองหน้าชาวสวีเดนมีโอกาสทอง แต่กลับเลือกเปิดให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ โหม่งแทนที่จะยิงเอง ซึ่งลูกดังกล่าวถูกจับล้ำหน้าในที่สุด

เอ็มบิวโม ตีเสมอให้เบรนท์ฟอร์ดจากจุดโทษในนาทีที่ 66 หลังจากผู้รักษาประตูนิวคาสเซิล นิค โป๊ป ทำฟาวล์ โยอาน วิสซา ก่อนที่โตนาลีจะยิงประตูชัยให้ทีมเยือน

ช่วงท้ายเกม เบรนท์ฟอร์ดพยายามเร่งเครื่องและเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ อีธาน พินน็อก ที่ชนเสา และยังมีการเช็ก VAR กรณี มิคเคล ดัมส์การ์ด ถูกทำฟาวล์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 8 นาที ทำให้แฟนบอลนิวคาสเซิลต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย แทงบอลออนไลน์

นิวคาสเซิลลงเล่นนัดแรกหลังจากคว้าแชมป์ลีกคัพที่เวมบลีย์ ซึ่งเป็นแชมป์ในประเทศครั้งแรกในรอบ 70 ปี ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ อันดับ 5 มี 50 คะแนน ตามหลังแชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่เบรนท์ฟอร์ดอยู่อันดับ 11 มี 41 คะแนน

“ชัยชนะครั้งนี้สำคัญมากต่อการลุ้นไปแชมเปียนส์ลีก พวกเรามีสัปดาห์ที่ดี และนี่เป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ” โตนาลีกล่าว “ตอนนี้เรามุ่งเป้าไปที่การจบใน 5 อันดับแรกเพื่อคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีก”

ด้านเอ็มบิวโม ซึ่งยิงจุดโทษเข้า 10 จาก 10 ครั้งที่รับหน้าที่ยิง ยอมรับว่าเบรนท์ฟอร์ดควรได้อะไรมากกว่านี้ในเกมนี้

“เราทำผลงานได้ดี แต่สุดท้ายมันยังไม่พอ” เอ็มบิวโมกล่าว “เรารู้ดีว่าเกมนี้จะยากเพราะนิวคาสเซิลเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายผลการแข่งขันก็น่าผิดหวังและยากจะยอมรับ”

 

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

 

ฮาเมส โรดริเกซ (James Rodriguez) กัปตันทีมเลออง (Leon) และ เอดูอาร์โด เบริซโซ (Eduardo Berizzo) กุนซือของทีม เรียกร้องให้ ฟีฟ่า ทบทวนการตัดสิทธิ์สโมสรเลอองจากการแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลอองถูกตัดสิทธิ์จากทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของหลายสโมสร (Multi-club Ownership)

 

ทั้ง เลออง และ ปาชูกา ซึ่งเป็นสองทีมจากเม็กซิโก สามารถผ่านเข้ารอบมาได้ แต่ทั้งสองสโมสรมีเจ้าของเดียวกัน คือ Grupo Pachuca ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎของฟีฟ่า www sbobet

 

“นี่เป็นความอยุติธรรมอย่างมาก” โรดริเกซกล่าวระหว่างแถลงข่าว

 

“หากพวกเขาตัดเราออกจากการแข่งขัน มันไม่ยุติธรรมเลย และจะกลายเป็นตราบาปของวงการฟุตบอล มีแฟนบอลที่ซื้อบัตรเข้าชมไปแล้ว และบางคนถึงกับเป็นหนี้เพราะตั๋วเหล่านั้น คุณจะบอกพวกเขาว่าตอนนี้ทีมของเราไม่ได้ไปแข่งขันได้ยังไง?”

 

โรดริเกซ เจ้าของรางวัล ดาวซัลโวสูงสุด (Golden Boot) ฟุตบอลโลก 2014 เพิ่งเซ็นสัญญา 1 ปีกับเลออง โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือเขาต้องการลงเล่นในศึกสโมสรโลกที่จัดขึ้นในสหรัฐฯ ช่วงซัมเมอร์นี้

 

“ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ว่าเราจะได้เล่นในศึกสโมสรโลกหรือไม่ ผมก็ยังอยากอยู่กับทีมนี้ต่อไป” โรดริเกซกล่าว

 

“นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม ผมไม่เคยผ่านเข้ารอบฟุตบอลสโมสรโลกมาก่อน แต่แล้วก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่สัปดาห์ พวกเขากลับบอกว่าเราถูกตัดสิทธิ์ ผมหวังว่าฟีฟ่าจะทำอะไรสักอย่าง”

 

Grupo Pachuca ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรเลออง ได้ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ในเดือนหน้า

 

“CAS ควรตัดสินให้เราได้รับสิทธิ์ลงแข่งขัน” เบริซโซกล่าว

 

“เรามีสิทธิ์ที่จะแข่งขัน เราไม่ได้ทำผิดกฎใด ๆ นี่เป็นการตัดสินใจที่ไม่ยุติธรรม และยังมีเวลาแก้ไขเรื่องนี้”

 

ขณะนี้ฟีฟ่ายังไม่ได้ประกาศทีมที่จะมาแทนเลออง แต่สโมสร Liga Deportiva Alajuelense จากคอสตาริกาได้ยื่นข้อเสนอขอเข้าร่วมการแข่งขัน

 

โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Alajuelense เคยเรียกร้องให้ฟีฟ่าบังคับใช้กฎการห้ามถือครองหลายสโมสร

 

“ทีมที่เสนอตัวมาแทนเราควรรู้สึกละอายใจ” อันเดรส กวาร์ดาโด กองกลางเลอองกล่าว

 

“นี่เป็นความอยุติธรรมอย่างร้ายแรง ถ้ามีใครที่ทำผิดพลาด นั่นก็คือฟีฟ่าเอง”

 

“การเป็นเจ้าของหลายสโมสรในเม็กซิโกมีมานานหลายปีแล้ว แต่ฟีฟ่าก็ยังอนุญาตให้เราลงแข่งขันมาตลอด”

 

ในเม็กซิโก นอกจาก เลออง และ ปาชูกา แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทที่ถือครองหลายสโมสรในลีกสูงสุด www sbobet

 

Grupo Caliente เป็นเจ้าของ คลับ ติฮัวนา และ เกเรตาโร

 

Grupo Orlegi เป็นเจ้าของ แอตลาส และ ซานโตส ลากูน่า

 

TV Azteca เป็นเจ้าของ มาซัตลัน และมีหุ้นบางส่วนใน พูเอบลา

 

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

 

เคยเป็นที่ต้องการของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (Mauricio Pochettino) ที่เชลซี (Chelsea) กุนซือใหม่ของทีมได้แข้งคนสำคัญกลับมา

 

การกลับมาของ ไทเลอร์ อดัมส์ (Tyler Adams) ถือเป็นข่าวดีสำหรับทีมชาติสหรัฐอเมริกา และเขาน่าจะได้ลงสนามทันทีในศึก Concacaf Nations League

 

ทีมชาติสหรัฐฯ กำลังเตรียมลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศของศึก Concacaf Nations League พบกับ ปานามา ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคมนี้ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นเวลา 19.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ (ET) ถ่ายทอดสดทาง Paramount+ อย่างไรก็ตาม รายชื่อทีมชุดนี้จะดูแตกต่างจากปกติ เนื่องจากขาดผู้เล่นหลักอย่าง โฟลาริน บาโลกัน, ริคาร์โด้ เปปี, เซอร์จินโญ่ เดสต์ และ เบรนเดน อารอนสัน แต่ข่าวดีคือ อดัมส์จะกลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง วิธีดูราคาบอล sbobet

 

อดัมส์ต้องต่อสู้กับปัญหาอาการบาดเจ็บที่ หลังและเอ็นร้อยหวาย ทำให้เขาไม่ได้ร่วมแคมป์ทีมชาติสหรัฐฯ นับตั้งแต่ศึก โคปา อเมริกา 2024 และการกลับมาครั้งนี้จะเป็นการลงสนามครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และยังเป็นโอกาสแรกที่เขาจะได้ลงเล่นภายใต้กุนซือคนใหม่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

 

อดัมส์ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของทีมชาติสหรัฐฯ โดยเคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ และตอนนี้เขากลับมาพร้อมช่วยทีมลุ้นแชมป์ Concacaf Nations League สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

 

“มันรู้สึกดีมากที่ได้กลับมาสู่แคมป์ทีมชาติ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมคนใหม่ ผมเคยทำงานกับผู้จัดการทีมมาหลายคนในอาชีพของผม และตอนนี้การได้ร่วมงานกับอีกหนึ่งกุนซือระดับยอดเยี่ยมอย่างเมาริซิโอ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” อดัมส์กล่าว

 

“ผมตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้กระบวนการและแนวคิดของเขา รวมถึงมุมมองของเขาต่อเกมการแข่งขัน แน่นอนว่าผมเคยแข่งขันกับทีมที่เขาเคยคุมมาแล้ว จึงพอรู้จักแนวทางการเล่นของเขาอยู่บ้าง”

 

“แต่ก่อนที่เราจะรู้ตัว ฟุตบอลโลกครั้งหน้าก็จะมาถึงแล้ว ดังนั้นเราต้องใช้ทุกช่วงเวลาของการฝึกซ้อมและทุกโอกาสที่เรามีให้คุ้มค่าที่สุด และต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมต่อไป”

 

อดัมส์เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม และการกลับมาของเขาจะช่วยทีมชาติสหรัฐฯ ได้อย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นนักเตะที่ โปเช็ตติโน่เคยต้องการเซ็นสัญญาไปร่วมทีมเชลซี มาก่อน แม้ว่าดีลดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น แต่คุณสมบัติของเขาทั้งในแง่ของการเล่นเกมรับและการเชื่อมเกมในแดนกลาง จะช่วยเสริมความสมดุลให้กับทีมได้

 

แม้ว่ารูปแบบแดนกลางของสหรัฐฯ อาจแตกต่างจากชุด “MMA” ที่ประกอบด้วย เวสตัน แม็คเคนนี่, ยูนุส มูซาห์ และ อดัมส์ ซึ่งทำผลงานยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2022 โดยเฉพาะเมื่อมูซาห์เริ่มถูกขยับไปเล่นเป็นปีกมากขึ้น แต่สิ่งนี้ไม่ได้ลดทอนบทบาทสำคัญของอดัมส์ลงเลย วิธีดูราคาบอล sbobet

 

การลงเล่นให้กับ บอร์นมัธ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทีมที่กำลังลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในพรีเมียร์ลีก ทำให้ อดัมส์อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมทีมชาติ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้แปลกใจกับสิ่งนี้

 

“นักฟุตบอลทุกคน ไม่ว่าจะฟิตหรือไม่ ก็ต่างต้องการจังหวะการเล่นและความสม่ำเสมอ” อดัมส์กล่าว “ตอนนี้ผมได้ความต่อเนื่องกลับมา และผมรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด สำหรับผมแล้ว ไม่เคยมีข้อสงสัยเลยว่าผมจะกลับไปสู่ระดับที่ผมเคยอยู่ได้ มันแค่ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เท่านั้น”

 

“ตอนนี้ผมพยายามโฟกัสกับปัจจุบัน รักษาความสม่ำเสมอในสิ่งที่ทำ และผมรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมากหลังจากที่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง”

 

ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ทีมชาติสหรัฐฯ กำลังพยายามสร้างขึ้นเช่นกัน และหากอดัมส์สามารถช่วยนำสิ่งนี้มาสู่ทีมได้ มันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2026

 

เนื่องจากผู้เล่นที่อยู่ในแคมป์นี้หลายคน จะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขัน Gold Cup ในช่วงซัมเมอร์ได้ เนื่องจากต้องรับใช้สโมสรในศึก Club World Cup ดังนั้น การใช้เวลาในแคมป์ทีมชาติครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญ และการมี อดัมส์ที่ฟิตสมบูรณ์ จะช่วยให้ทีมชาติสหรัฐฯ พร้อมเดินหน้าต่อไป

 

ลามีน ยามาล สร้างประวัติศาสตร์ พาบาร์เซโลนา ทะลุรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก

ลามีน ยามาล สร้างประวัติศาสตร์ พาบาร์เซโลนา ทะลุรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก

ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) แข้งดาวรุ่งของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ยังคงสร้างความมหัศจรรย์ในสนาม ล่าสุดเขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำทั้งประตูและแอสซิสต์ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หลังช่วยทีมเอาชนะ เบนฟิกา (Benfica) 3-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

ยามาล ฟอร์มเด่น ยิง 1 แอสซิสต์ 1 พาบาร์ซาเข้ารอบ

ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ยามาล (Yamal) วัยเพียง 17 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีส่วนร่วมกับ 2 ประตูสำคัญของทีม

  • แอสซิสต์สุดเฉียบ – ยามาลเลี้ยงบอลผ่านแนวรับของเบนฟิกา ก่อนจ่ายบอลให้ ราฟินญา (Raphinha) ยิงวอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงาม
  • ประตูสุดสวย – ยามาลมีโอกาสยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงปั่นบอลโค้งหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสมบูรณ์แบบ

หลังเกม ราฟินญา (Raphinha) กล่าวชื่นชมเพื่อนร่วมทีมว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์และมีพรสวรรค์สูงมาก”

ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ ลามีน ยามาล 

ฤดูกาลนี้ ยามาล (Yamal) ทำไปแล้ว 28 ประตูและแอสซิสต์รวมกัน และใกล้แตะหลัก 60 ประตูในระดับสโมสรและทีมชาติ แม้จะมีอายุเพียง 17 ปี แต่เขาเล่นด้วยความมั่นใจและโดดเด่นในทุกเกมที่ลงสนาม

ฮันซี ฟลิค (Hansi Flick) กุนซือของบาร์เซโลนา กล่าวว่า “ประตูนี้มีความหมายกับเขามาก เพราะเขาไม่ได้ยิงมานานกว่า 6 เกม เราทุกคนดีใจกับเขา เพราะเขาเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถพิเศษ”

บาร์เซโลนา ลุ้นแชมป์แชมเปียนส์ลีก หลังเข้ารอบ 8 ทีม

ชัยชนะเหนือ เบนฟิกา (Benfica) ด้วยสกอร์รวม 4-1 ทำให้ บาร์เซโลนา (Barcelona) ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ และจะต้องเผชิญหน้ากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) หรือ ลีลล์ (Lille) ในรอบต่อไป

แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองว่าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) จะสามารถพาทีมไปได้ไกลแค่ไหน และอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ บาร์เซโลนา (Barcelona) คว้าแชมป์ยุโรปสมัยใหม่ได้อีกครั้ง!

หากคุณกำลังมองหา เว็บแทงบอลยูโร 2024 ที่ให้ราคาน้ำดีที่สุด ลองเลือกเว็บที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองจากผู้เล่นทั่วโลก สนุกกับการเชียร์ทีมโปรดของคุณ พร้อมวางเดิมพันผ่าน เว็บแทงบอลยูโร 2024 ที่รองรับการใช้งานทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์

วิตินญ่า

วิตินญ่า กร้าว เราจะบุกไปเอาชนะที่แอนฟิลด์ ให้ได้ หลัง เปแอสเช พ่ายหงส์ ทั้งที่บุกยิงกระจุย

วิตินญ่า (Vitinha) ดาวเตะ PSG ให้คำมั่นสัญญาหลังจากที่ ถูก ลิเวอร์พูล บุกมาคว้าชัยชนะในเกมเลกแรก คา พาร์ค เดอ แพรงต์  ทั้งที่ PSG ครองเกมเหนือ ลิเวอร์พูล (Liverpool)ในเกมเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) แต่หงส์แดงกลับมีความได้เปรียบเล็กน้อยหลังจากการคว้าชัยชนะอย่างน่าทึ่งแบบฉกฉวยโอกาสเพียงครั้งเดียว วิตินญ่า (Vitinha) ดาวเตะของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) หรือ PSG ยืนยันว่าทีมของเขาจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่สนาม แอนฟิลด์ (Anfield) เพื่อพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก แชมเปียนส์ ลีก 

หงส์แดงสามารถคว้าชัยชนะแบบฉกฉวยโอกาสได้อย่างสมบูรณ์ในเกมนี้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผลที่สนาม ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ (Parc des Princes) ในเกมเลกแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา PSG ครองบอลถึง 70 เปอร์เซ็นต์และยิงประตูถึง 27 ครั้งอย่างน่าตกใจ พร้อมทั้งผ่านบอลมากกว่า 600 ครั้ง แต่สุดท้าย กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ วิตินญ่า (Vitinha) กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ คาแนล พลัส (Canal+) ว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะเล่นเกมแบบนี้ กับทีมแบบนี้ ที่มีโอกาสทำประตูเพียงครั้งเดียว ยิงเพียงหนึ่งครั้ง เราจะแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมแบบไหน เราจะแสดงตัวตนของเรา”

“เราจะเอาชนะที่นั่น จากเกมที่เราเล่น ชัยชนะควรเป็นของเรามากกว่า เหมือนกับตอนต้นฤดูกาล เรามีโอกาสมากมาย แต่เราล้มเหลวในการทำประตู” ที่น่าแปลกใจคือ ความพ่ายแพ้เมื่อวันพุธเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของ PSG นับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ 1-0 ในเกมเยือน บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ในรอบลีกของ แชมเปียนส์ ลีก ทางเข้าsbo888 พวกเขาหวังที่จะทำได้ดีกว่าปีที่แล้ว เมื่อพวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศ ทางเข้าsbo888 กุนซือ หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) สะท้อนความคิดของดาวเตะ วิตินญ่า (Vitinha) โดยสนับสนุนทีมของเขาให้พลิกเกมในนัดที่สอง เขายืนยันว่าทีมของเขาแสดงผลงานได้ดีและเหนือกว่า ลิเวอร์พูล อย่างมาก

“มันยากที่จะพูดถึงเกมแบบนั้น เราครองเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดใน ยุโรป (Europe) เราต้องคิดในแง่บวกและวิเคราะห์เกมพรุ่งนี้” หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) กล่าวอย่างเสียดายกับ คาแนล พลัส (Canal+)

“แต่ผมพอใจกับผลงานของทีมและเราต้องคิดเกี่ยวกับการพลิกผลการแข่งขันนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมองอะไรในแง่ลบ เป็นเวลาที่จะภูมิใจในสีของเรา วันนี้ ผมคิดว่าเราแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเล่นกับคู่แข่งไหนก็ได้”

“เราจะทำแบบเดียวกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาคือผู้รักษาประตู เราเล่นได้ดีกว่า ลิเวอร์พูล มาก! แต่พวกเขาชนะเกมนั้น มันไม่ยุติธรรมมาก”

“ผมไม่เห็นด้านลบใดๆ ผมภูมิใจในทีมของผมมาก ภูมิใจในนักเตะของผมมาก ยังมีเกมเลกสองที่จะเล่นที่ ลิเวอร์พูล เราจะไม่ยอมแพ้”

บุกเยอะยิงไม่ผ่านมือ ผู้รักษาประตู กับอีกทีมยิงโป้งเดียว ได้ประตูชัย

เกมระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) และ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) เลกแรก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความขัดแย้งในฟุตบอลระหว่างการครองเกมและประสิทธิภาพ PSG ครองบอลถึง 70% มีโอกาสยิงถึง 27 ครั้ง และผ่านบอลมากกว่า 600 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถเจาะตาข่ายของ ลิเวอร์พูล ได้เลย ในขณะที่ หงส์แดง แทบจะไม่ได้ครองเกม แต่กลับใช้โอกาสเพียงหนึ่งเดียวที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาฟุตบอลที่แตกต่างกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่แห่ง ยุโรป (Europe) ผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นฮีโร่ของทีมในเกมนี้ ทำให้ความพยายามทั้งหมดของ PSG ต้องสูญเปล่า การเดินทางไปเยือนสนาม แอนฟิลด์ (Anfield) ในเกมเลกสองจะเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) สนามที่มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศที่น่าเกรงขาม และประวัติศาสตร์อันยาวนานในการสร้างปาฏิหาริย์ในรายการ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) อย่างไรก็ตาม วิตินญ่า (Vitinha) และเพื่อนร่วมทีมยังคงมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) ได้แสดงความเชื่อมั่นในตัวลูกทีมว่าพวกเขาสามารถเล่นกับคู่แข่งระดับใดก็ได้ การที่ PSG ไม่ได้พ่ายแพ้มาเป็นเวลานานก่อนเกมนี้ ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพและความแข็งแกร่งของทีม เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในเกมเลกสอง PSG จำเป็นต้องรักษาระดับการเล่นที่ดีเอาไว้ แต่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำประตู การจัดการกับแรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่สนาม แอนฟิลด์ (Anfield) และการหยุดการโต้กลับอันรวดเร็วของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ

เจสซี มาร์ช

ผู้จัดการทีมแคนาดา มาร์ช ‘ละอายใจ’ ต่อคำเยาะเย้ยเรื่องรัฐที่ 51 ของทรัมป์

ผู้จัดการทีมแคนาดา มาร์ช ‘ละอายใจ’ ต่อคำเยาะเย้ยเรื่องรัฐที่ 51
ของทรัมป์
เจสซี มาร์ช

ผู้จัดการทีมชาติ แคนาดา ชาวอเมริกัน เจสซี มาร์ช (Jesse Marsch) แสดงความ “ละอายใจ” ต่อความเห็นซ้ำๆ ของประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เกี่ยวกับการทำให้ แคนาดา เป็นรัฐที่ 51 ของ สหรัฐฯ

ความตึงเครียดระหว่างประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองได้เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก คำพูดเรื่องรัฐที่ 51 ของทรัมป์ รวมถึงข้อเสนอเกี่ยวกับภาษีการค้าที่รุนแรงระหว่างทั้งสองประเทศ

อดีตผู้จัดการทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม แคนาดา ในเดือนพฤษภาคม 2024 และอาจจะต้องเผชิญหน้ากับ สหรัฐฯ ในรอบชิงชนะเลิศของ คอนคาเคฟ เนชันส์ ลีก (CONCACAF Nations League) ในเดือนหน้าและทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

“ถ้าผมมีข้อความหนึ่งถึงประธานาธิบดีของเรา ก็คือ หยุดคำพูดที่ไร้สาระเกี่ยวกับการที่ แคนาดา จะเป็นรัฐที่ 51” มาร์ช (Marsch) กล่าว ซึ่งเขาเกิดที่รัฐวิสคอนซินและเคยลงเล่นให้ทีมชาติ สหรัฐฯ สองนัดในระหว่างอาชีพอันยาวนานใน เอ็มแอลเอส (MLS)

“ในฐานะชาวอเมริกัน ผมละอายใจต่อความหยิ่งยโสและการไม่ให้ความสำคัญที่เราแสดงต่อหนึ่งในพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และจงรักภักดีที่สุดทางประวัติศาสตร์ของเรา”

แคนาดา และ สหรัฐฯ เพิ่งพบกันในการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง 4 ชาติ โดย แคนาดา ชนะในรอบชิงชนะเลิศ

เกมแรกของพวกเขากลายเป็นความโกลาหล เมื่อมีการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นเกิดขึ้นสามครั้งในเก้าวินาทีแรก ขณะที่เพลงชาติ สหรัฐฯ ถูกโห่อย่างรุนแรง

แฟนๆ ชาวอเมริกันก็โห่เพลงชาติ แคนาดา เช่นกัน ซึ่งถูกร้องด้วยเนื้อเพลงที่ต่างไปเพื่อประท้วงคำกล่าวของ ทรัมป์ (Trump)

หลังจาก แคนาดา ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) เขียนบน X ว่า: “คุณไม่สามารถเอาประเทศของเรา – และคุณไม่สามารถเอากีฬาของเราไปได้”

มาร์ช (Marsch) ชนะหกจากสิบสามเกมในฐานะผู้จัดการทีม แคนาดา ซึ่งกำลังมองหาถ้วยรางวัลชิ้นแรกตั้งแต่ปี 2000 ใน เนชันส์ ลีก

แคนาดา จะพบกับ เม็กซิโก ในรอบรองชนะเลิศวันที่ 21 มีนาคม และผู้ชนะจะเจอกับ สหรัฐฯ หรือ ปานามา ในรอบชิงชนะเลิศสองวันต่อมา โดยทุกเกมจะเล่นที่สนาม โซไฟ สเตเดียม (SoFi Stadium) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

“แคนาดา เป็นประเทศที่เข้มแข็ง เป็นอิสระ และมีรากฐานที่ลึกซึ้งในความเหมาะสม เป็นสถานที่ที่ให้คุณค่ากับจริยธรรมสูงและความเคารพ ไม่เหมือนกับบรรยากาศที่แบ่งแยก ไร้ความเคารพ และบ่อยครั้งที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีอยู่ใน สหรัฐฯ” มาร์ช (Marsch) กล่าวเพิ่มเติม

“เมื่อผมมองไปข้างหน้าอีกหนึ่งเดือน ผมรู้ว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นทีมของเรา จิตใจและความตั้งใจที่เรามีในการเล่นเพื่อประเทศของเรา ความปรารถนาที่จะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ในทุกวิถีทาง และแสดงให้เห็นทั้งในและนอกสนามว่าอุปนิสัยของชาว แคนาดา เป็นอย่างไร”

ผู้จัดการทีม เม็กซิโก ฮาเวียร์ อากีร์เร (Javier Aguirre) และโค้ชทีม ปานามา โทมัส คริสเตนเซน (Thomas Christensen) อยู่ในงานแถลงข่าวเดียวกันกับ มาร์ช (Marsch) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ อเมริกา มีรองประธานสมาคมฟุตบอล สหรัฐฯ โอกูชิ โอนเยวู (Oguchi Onyewu) เป็นตัวแทน ซึ่งปฏิเสธที่จะให้ความเห็นทางการเมืองใดๆ

ความขัดแย้งระหว่าง แคนาดา และ สหรัฐฯ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามกีฬาเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าระหว่างสองประเทศ คำพูดของ ทรัมป์ (Trump) เกี่ยวกับการทำให้ แคนาดา เป็นรัฐที่ 51 ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาว แคนาดา อย่างกว้างขวาง และยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองตึงเครียดมากขึ้น

มาร์ช (Marsch) ในฐานะชาวอเมริกันที่กำลังนำทีมชาติ แคนาดา อยู่ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน เขาเลือกที่จะแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อต้านคำพูดของประธานาธิบดีประเทศบ้านเกิดของเขาเอง การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อตำแหน่งปัจจุบันของเขาและความเคารพต่อประเทศ แคนาดา

การแข่งขัน คอนคาเคฟ เนชันส์ ลีก ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นเวทีสำคัญไม่เพียงแค่ทางกีฬาแต่ยังรวมถึงสัญลักษณ์ทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก แคนาดา และ สหรัฐฯ ได้พบกันในรอบชิงชนะเลิศ ความตึงเครียดนอกสนามอาจส่งผลต่อบรรยากาศของการแข่งขันและอาจมีการแสดงออกทางการเมืองจากทั้งผู้เล่นและแฟนๆ

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ เจสซี มาร์ช มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ถูกส่งโรงพยาบาลหลังโดนเสียบหนัก

ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ถูกส่งโรงพยาบาลหลังโดนเสียบหนัก

ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ถูกส่งโรงพยาบาลหลังโดนเสียบหนัก

ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (Jean-Philippe Mateta) กองหน้าของคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) “รู้สึกตัว” หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากถูก เลียม โรเบิร์ตส์ ผู้รักษาประตูของมิลล์วอลล์ (Millwall) เตะเข้าที่ใบหน้าในนาทีที่ 8 ของเกมเอฟเอ คัพ รอบที่ห้าเมื่อวันเสาร์ ซึ่งสตีฟ พาริช ประธานสโมสรพาเลซ อธิบายว่าเป็น “การเข้าสกัดที่ประมาทที่สุด” ที่เขาเคยเห็น sbobetผลบอลสด

พาริชยืนยันกับ BBC ในช่วงพักครึ่งว่ามาเตต้ามีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณด้านหลังใบหู และขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อรับการรักษาต่อไป พร้อมแสดงความไม่พอใจต่อการเข้าปะทะดังกล่าว ซึ่งทำให้โรเบิร์ตส์โดนใบแดงโดยตรง

หลังจบเกม โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ เปิดเผยว่ามาเตต้ายังคงมีสติรับรู้ได้

ต่อมาในวันเสาร์ มาเตต้าได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ผมสบายดี หวังว่าจะกลับมาได้เร็วที่สุดและแข็งแกร่งกว่าเดิม ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมทีมที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในวันนี้”

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อโรเบิร์ตส์ออกมานอกกรอบเขตโทษเพื่อพยายามเคลียร์บอลยาว แต่จังหวะฟอลโลว์ทรูของเท้าซ้ายที่ยกสูงของเขากลับไปโดนใบหน้าของมาเตต้าเต็มๆ

มาเตต้าล้มลงกับพื้นและได้รับการรักษาเป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะนำเฝือกคอมาใส่ให้เขาและนำตัวออกจากสนามไปขึ้นรถพยาบาล sbobetผลบอลสด

“เขารู้สึกตัวและอยู่ที่โรงพยาบาล แต่สภาพหูของเขาดูแย่มาก ถือเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ดังนั้นเราหวังว่าเขาจะหายโดยเร็วที่สุด” กลาสเนอร์กล่าว

พาริชให้ความเห็นถึงเหตุการณ์นี้ในเชิงอารมณ์มากขึ้น

“ตลอดเวลาที่ผมดูฟุตบอลมา ผมไม่เคยเห็นการเข้าสกัดที่แย่กว่านี้มาก่อนเลย หากคุณเตะใครเข้าที่ศีรษะ คุณไม่มีทางรู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงแค่ไหน” พาริชกล่าว

ไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ตอนแรกไม่ได้แจกใบเหลืองให้โรเบิร์ตส์ แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงไม่กี่หลา แต่ภายหลังได้ให้ใบแดงโดยตรงหลังได้รับแจ้งจาก VAR ให้ไปดูเหตุการณ์จากจอมอนิเตอร์ข้างสนาม sbobetผลบอลสด

“พวกเขาเป็นนักเตะอาชีพและต้องให้เกียรติกัน รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมอาชีพของตัวเอง” พาริชกล่าว

“ผู้รักษาประตูคนนั้นไม่ได้แสดงความรับผิดชอบเลย ต้องชื่นชมผู้เล่นที่ยังสามารถเล่นต่อไปได้ แต่สำหรับผม มันยากที่จะคิดถึงเรื่องอื่นเมื่อมาเตต้ายังอยู่ในโรงพยาบาล”

“ตลอดเวลาที่ผมดูฟุตบอลมา มีคนพูดถึงเหตุการณ์คล้ายกันในฟุตบอลโลกปี 1982”

“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ตัดสิน (ไมเคิล โอลิเวอร์) ถึงต้องไปดูภาพช้าอีก”

มาเตต้าเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพาเลซในฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้ว 12 ประตูในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะขาดกองหน้าตัวหลักไปในช่วงที่เหลือของเกม แต่พาเลซก็ยังสามารถเอาชนะมิลล์วอลล์ที่เหลือ 10 คนไปได้ 3-1

“บางทีวันนี้เราอาจจะไม่สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่” กลาสเนอร์กล่าว

“แน่นอนว่าการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อคุณเสียผู้เล่นไป โดยเฉพาะจากการทำฟาวล์แบบนี้ มันทำให้รู้สึกทั้งดีและแย่ในเวลาเดียวกัน”

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สิ้นสุดยุคแห่งความรุ่งโรจน์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สิ้นสุดยุคแห่งความรุ่งโรจน์

การแข่งขันในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) รอบเพลย์ออฟ นัดที่สองระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) และ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ที่สนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว (Santiago Bernabéu) กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในฤดูกาลนี้ ด้วยความพ่ายแพ้ที่ทำให้ทีมแดงสูญเสียความมั่นใจและเป็นสัญญาณเตือนถึงการสิ้นสุดยุคของความรุ่งโรจน์ที่ผ่านมา แม้เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีมจะพยายามพลิกสถานการณ์กลับมา แต่ผลการแข่งขันที่ผ่านมาชี้ชัดว่าทีมต้องเผชิญกับความท้าทายใหญ่ทั้งในด้านนักเตะและการบริหารจัดการในสนามระดับสูง

จังหวะสำคัญและปัญหาบาดเจ็บที่ส่งผลต่อผลการแข่งขัน

ในเกมนี้ เรอัล มาดริด (Real Madrid) คว้าชัยด้วยการยิงแฮตทริกของคีเลียน เอมบัปเป้ (Kylian Mbappe) ตั้งแต่ต้นเกม เมื่อเพียง 4 นาทีแรก มาบาปเป้ได้ยิงลูกลอบจากการส่งบอลของ ราอูล อาเซนสิโอ (Raul Asencio) ทำให้ผลต่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ตามหลังไปอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน ปัญหาบาดเจ็บก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซิตี้ต้องสูญเสียความแข็งแกร่งในเกม เนื่องจากเออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) ซึ่งเป็นหัวใจของเกมรุกต้องอยู่บนม้านั่งเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ขณะที่กองหลัง จอห์น สโตนส์ (John Stones) ก็ถูกบาดเจ็บออกจากสนามในไม่กี่นาทีหลังจากที่มาบาปเป้เปิดเกมไว้ ทำให้ความสามารถในการป้องกันและเกมรุกของทีมลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ผลกระทบจากการขาดนักเตะสำคัญเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าทีมที่เคยเป็นที่หนึ่งในยุโรปอาจกำลังเผชิญกับการเสื่อมถอยอย่างรุนแรงในช่วงเวลานี้ เมื่อเป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนักและความคาดหวังที่สูงจากแฟนบอลและนักวิเคราะห์ เขาต้องหาทางปรับปรุงทีมให้สามารถแข่งขันในระดับสูงได้อีกครั้ง

บทเรียนและแนวทางในอนาคตสำหรับซิตี้

ผลการแข่งขันในสนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว (Santiago Bernabéu) ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสถานะการแข่งขันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ในการบริหารจัดการทีมในยุคใหม่ ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านบาดเจ็บและแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้กล่าวไว้ว่า “Nothing is eternal” หมายความว่าไม่มีอะไรในวงการฟุตบอลที่จะคงอยู่ตลอดไป ซึ่งเป็นการยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทีมของเขา ในขณะเดียวกันเขายังคงมุ่งหวังให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเกมต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับคู่แข่งที่มีประสบการณ์และประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง เรอัล มาดริด (Real Madrid)

นอกจากนี้ ผลการแข่งขันในคืนนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับแผนการฝึกซ้อมและการบริหารจัดการนักเตะ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ต้องหาวิธีที่จะลดปัญหาบาดเจ็บและเสริมสร้างความมั่นใจในทีมให้กลับมาแข่งขันในระดับสูงอีกครั้ง

สุดท้ายนี้ ความพ่ายแพ้ในสนามเบอร์นาเบว (Santiago Bernabéu) เป็นสัญญาณเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กำลังจะมาถึง และในอนาคต ทีมต้องปรับตัวและพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อคืนความรุ่งโรจน์ในเวทียูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง”

หากคุณต้องการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่าลืมติดตามบทความและข่าวสารจาก hillapple อย่างสม่ำเสมอ นวัตกรรมจาก hillapple กำลังได้รับความนิยมและยอมรับในวงการเทคโนโลยีทั่วโลก