เอธาน นวาเนรี่

นวาเนรี (Nwaneri) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก (Premier League)

ดาวรุ่งวัย 17 ปีของ อาร์เซนอล (Arsenal) สร้างสถิติเป็นนักเฟุตบอลคนแรกที่เกิดในปี 2007 ที่ยิงประตูได้ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก (Premier League) แต่เขาอยู่อันดับที่เท่าไหร่ในบรรดา 10 อันดับนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้

อีธาน นวาเนรี (Ethan Nwaneri) ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 82 และทำประตูที่สามให้ อาร์เซนอล (Arsenal) เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) 3-0 นับเป็นประตูแรกของเขาใน พรีเมียร์ลีก (Premier League) และทำให้เขาติดอันดับ 10 นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในลีกสูงสุด

ด้วยวัย 17 ปี 247 วัน นวาเนรี (Nwaneri) กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 9 ที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) และเป็นคนที่สองรองจาก sbobet beer777 เซสค์ ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas) ที่ทำประตูให้ อาร์เซนอล (Arsenal) ตอนอายุ 17 ปี 113 วัน ในเกมที่เจอกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (Blackburn Rovers) ในปี 2004

นวาเนรี (Nwaneri) เกิดวันที่ 21 มีนาคม 2007 เพียงสามวันหลังจากที่ อาร์เซนอล (Arsenal) พ่ายแพ้จากประตูในช่วงทดเวลาของ แอนดรูว์ จอห์นสัน (Andrew Johnson) ให้กับ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค (Goodison Park)

การทำลายสถิติของนักเตะอายุน้อยที่สุด

นวาเนรี (Nwaneri) เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) และเป็นคนแรกที่ได้ลงเล่นตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อเขาถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายเกมที่ sbobet beer777 อาร์เซนอล (Arsenal) ชนะ เบรนท์ฟอร์ด (Brentford) 3-0 ในเดือนกันยายน 2022 ด้วยวัย 15 ปี 181 วัน

เขาทำได้สามประตูใน อีเอฟแอล คัพ (EFL Cup) ให้กับ อาร์เซนอล (Arsenal) ในฤดูกาลนี้ และด้วยประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก (Premier League) นวาเนรี (Nwaneri) ได้แทนที่ ราฮีม สเตอร์ลิง (Raheem Sterling) ผู้ที่เป็นผู้จ่ายบอลให้เขายิงประตูนี้ ออกจากอันดับ 10 สเตอร์ลิง (Sterling) เคยทำประตูให้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในเกมที่เจอกับ เรดดิ้ง (Reading) ในปี 2021 ตอนอายุ 17 ปี 317 วัน

นวาเนรี (Nwaneri) ถือเป็นอนาคตที่สดใสของวงการฟุตบอลอังกฤษ 

การทำประตูครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ส่วนตัว แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพของเขา การที่ อาร์เซนอล (Arsenal) ให้โอกาสดาวรุ่งอายุน้อยได้แสดงความสามารถในระดับสูงสุด สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการพัฒนาเยาวชนของสโมสรที่ประสบความสำเร็จ

ภายใต้การนำของผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) อาร์เซนอล (Arsenal) ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่ง และการตัดสินใจครั้งนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง นวาเนรี (Nwaneri) กำลังเดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง ฟาเบรกาส (Fabregas) ที่เคยสร้างชื่อให้กับ อาร์เซนอล (Arsenal) ในวัยเยาว์เช่นกัน

การทำประตูครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคนอื่นๆ ที่ฝันอยากจะก้าวขึ้นมาเล่นในระดับ พรีเมียร์ลีก (Premier League) การที่มีนักเตะอายุน้อยประสบความสำเร็จเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าโอกาสเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

อินเตอร์ มิลาน

อินเตอร์ มิลาน ชนะ RB ไลป์ซิก 1-0 ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ส่งท้ายด้วยการยึดอันดับแรกกลุ่ม

อินเตอร์ มิลานอินเตอร์ มิลาน ชนะ RB ไลป์ซิก 1-0 ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ส่งท้ายด้วยการยึดอันดับแรกกลุ่ม

อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) สามารถคว้าชัยชนะอันน่าเกรงขามด้วยสกอร์ 1-0 เหนือ RB ไลป์ซิก (RB Leipzig) ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (UEFA Champions League) ที่สนามซาน ซิโร่ (San Siro) โดยประตูเดียวที่ทำได้เป็นประตูออโต้กับตาของ คาสเตลโล ลูเคบา (Castello Lukeba) นักเตะทีมเยือนในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขัน

การแข่งขันเริ่มต้นด้วยการเปิดหมวกของอินเตอร์ฯ เมื่อ เฟเดริโก ดีมาร์โก (Federico Dimarco) ส่งลูกเตะมุมฟรีที่แปรงเข้าประตูของคู่ต่อสู้ โดย ลูเคบา ไม่สามารถหลบหลีกได้และหมุนลูกบอลเข้าประตูตนเอง สร้างความได้เปรียบให้กับทีมเหย้าในนาทีที่ 27

กัปตันทีม ลาอูทาโร มาร์ตีเนซ (Lautaro Martinez) เกือบสร้างประตูที่สองหลังจากการต่อสู้ในเขตโทษ แต่การพยายามของเขาถูกป้องกันไว้ได้ในช่วงสุดท้ายของการโจมตี ในช่วงครึ่งหลัง เดนเซล ดัมฟรีส (Denzel Dumfries) ก็เพียงแค่ยิงลูกบอลทะลุประตูหลังจากวิ่งพุ่งลงด้านข้างสนาม

หลังจากกลับมาสู่สนามหลังจากพักการแข่งขันระยะหนึ่ง ฮากัน ชาลฮาโนกลู (Hakan Calhanoglu) ทดลองยิงประตูจากระยะไกล แต่ ปีเตอร์ กูลาชี (Peter Gulacsi) ผู้รักษาประตูของทีมไลป์ซิกสามารถป้องกันลูกนี้ได้อย่างแม่นยำและหากใครไม่อยากพลาด ข่าว สโบเบท สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

มาร์คุส ธูรัม (Marcus Thuram) นักเตะชาวฝรั่งเศสพยายามทำประตูด้วยการซัดหัวจาก ดีมาร์โก แต่ก็ไม่สามารถส่งลูกบอลเข้าประตูได้สำเร็จ

ในช่วงท้ายเกม RB ไลป์ซิกพยายามกดดันอย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถทะลวงป้อมปราการป้องกันประตูของอินเตอร์ฯ ได้ ส่งผลให้เกมจบลงด้วยชัยชนะของอินเตอร์ มิลาน 1-0

ด้วยผลการแข่งขันครั้งนี้ อินเตอร์ มิลาน ขึ้นสู่อันดับแรกของตารางคะแนนในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยคะแนน 13 แต้มจากการแข่งขัน 5 นัด ในขณะที่ RB ไลป์ซิกยังคงอยู่ในอันดับท้ายๆ ของกลุ่มด้วยการไร้แต้ม

ชัยชนะในครั้งนี้เป็นความสำเร็จครั้งที่ 4 ติดต่อกันของอินเตอร์ มิลาน ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถของทีม รวมถึงความมุ่งมั่นของนักเตะและทีมงานทุกคน การป้องกันประตูที่แน่นหนาและการโจมตีที่มีประสิทธิภาพ ทำให้อินเตอร์ มิลาน สามารถคว้าชัยชนะที่สำคัญในเกมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ อินเตอร์ มิลาน  มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด ข่าว สโบเบท สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

เรอัล มาดริด เก็บชัยชนะ ลดช่องว่างกับบาร์เซโลนา

เรอัล มาดริด เก็บชัยชนะ ลดช่องว่างกับบาร์เซโลนา

เรอัล มาดริด (Real Madrid) คว้าชัยชนะเหนือเลกาเนส (Leganes) 3-0 ในศึกลา ลีกา สเปน ช่วยลดช่องว่างกับจ่าฝูงอย่างบาร์เซโลนา (Barcelona) เหลือเพียง 4 คะแนน พร้อมเตรียมความพร้อมก่อนพบลิเวอร์พูล (Liverpool) ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League)

เบลลิงแฮม โชว์ฟอร์มเด่น ยิงประตูปิดท้ายสุดสวย

เกมนี้เริ่มต้นด้วยความได้เปรียบของเรอัล มาดริด เมื่อคีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ทำประตูแรกก่อนหมดครึ่งแรก หลังจากวินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Junior) เปิดบอลเรียดเข้ากลางให้ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด

ในครึ่งหลัง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (Federico Valverde) ซัดประตูที่สองจากฟรีคิกสุดแรงทะลุเสาแรกของมาร์โก ดมิโตรวิช (Marko Dmitrovic) ก่อนที่จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) จะทำประตูปิดท้ายจากการโหม่งลูกยิงซ้ำที่กระดอนคานมาอย่างแม่นยำในนาทีที่ 85

เบลลิงแฮมยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาทำประตูได้ในสองเกมลีกติดต่อกัน และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทีมเก็บแต้มสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของฤดูกาล

เอ็มบัปเป้ ยิงแม่น แต่ล้ำหน้า

เอ็มบัปเป้เกือบได้เพิ่มสกอร์อีกลูกในครึ่งแรกจากการจ่ายบอลของวินิซิอุส จูเนียร์ แต่ถูกจับล้ำหน้า อย่างไรก็ตาม ดาวยิงชาวฝรั่งเศสยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีในฐานะหนึ่งในกุญแจสำคัญของทีม

ในช่วงท้ายเกม เอ็มบัปเป้พลาดโอกาสทองอีกครั้งเมื่อยิงไปติดเซฟของดมิโตรวิช

แนวรับที่แกร่ง กับการแก้ปัญหาอาการบาดเจ็บ

เลกาเนสพยายามทำเกมบุก แต่ไม่สามารถสร้างโอกาสที่ชัดเจนได้เลย ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (Thibaut Courtois) ผู้รักษาประตูของเรอัล มาดริด แทบไม่ได้เจองานยาก

นักเตะดาวรุ่งอย่างรูล อเซนซิโอ (Raul Asencio) ได้รับโอกาสลงสนามเป็นกองหลังตัวกลาง แทนที่เอแดร์ มิลิเตา (Eder Militao) ที่บาดเจ็บหนัก ขณะที่บัลเบร์เด้ถูกปรับตำแหน่งมาเล่นแบ็กขวาเพื่อช่วยทีม

สถานการณ์ในตารางคะแนน

ชัยชนะครั้งนี้ช่วยให้เรอัล มาดริด แซงหน้าแอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) ขึ้นไปอยู่อันดับสองในตารางลา ลีกา โดยมีคะแนนตามหลังบาร์เซโลนา 4 แต้ม แต่ยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด

เรอัล มาดริดมีความหวังในการลุ้นแชมป์ลา ลีกาอีกครั้ง พร้อมกับกำลังใจที่ดีในการลงเล่นศึกสำคัญในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์นี้

หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มสำหรับการเดิมพันกีฬา play sbobet คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยการออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ทำให้ play sbobet เหมาะสำหรับนักเดิมพันทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

รูเบ็น อโมริม

อโมริม เผยเหตุแข้งผี ล้มเหลวช่วงที่ผ่านมานั้น เพราะกุนซือเก่าตกอยู่ใต้เงาป๋าเฟอร์กี้ หากออกจากเงาป๋าได้เชื่อว่าเขาจะไม่ล้มเหลว

รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) กุนซือคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ได้ฤกษ์ คุมซ้อมวันแรกให้ทีมปิศาจแดงไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลายๆ คนก็เริ่มเห็นการปรับเรื่องของแท็กติก การใช้หลัง 3 คนตามแผนถนัดของเจ้าตัว ต่อมาทางสื่ออย่าง เดอะซัน ได้ออกมาเผยคำพูดที่ทาง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) ได้ใช้พูดกับลูกทีมของเขาว่า ในอดีต บรรดากุนซือคนเก่าๆ นั้นต้องออกสตาร์ทเริ่มงานอย่างยากลำบาก เพราะว่าดันมีความสำเร็จของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เป็นสารตั้งต้น และมันก็ทำให้ทุกคนไม่สามารถออกมาจากใต้ร่มเงาของ ป๋าเฟอร์กี้ ได้เลย จนทำให้ที่ผ่านมา กุนซือทั้งหลายต่างประสบความล้มเหลวในการพา แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ทะยานไปข้างหน้า ในเวลานี้ บรรดาลูกทีมใหม่ของเขามีความเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างมาก และ ตัวของ รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) ก็ดูมีความมั่นใจในตัวเองสูงอีกด้วย ดังนั้น เขาย่อมมีวิธีของตัวเอง และน่าจะสร้างความแตกต่างได้มากกว่ากุนซือหลายๆ คนที่ผ่านมา

 

ริชาร์ดส์ คีย์ส ผู้สันทัดกรณีคนดังชี้ว่า ฝ่ายคัดสรรของ ปิศาจแดง ควรจะต้องโดนไล่ออกไป หลังปล่อย เอริค เทน ฮาก ถลุงเงินคลังจนวายวอดเช่นนี้

 

ริชาร์ด คีย์ส (Richard Keys) สื่อกูรูคนดังออกมาชี้ว่า ฝ่ายคัดสรรของ ปิศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) นั้นสมควรที่จะต้องถูกไล่ออก หลังปล่อยให้อดีตกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ถลุงเงินในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ที่ โอลด์ ทราฟฟอร์ด จนมันส่งผลให้ในเวลานี้ ทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) นั้นมีงบอย่างจำกัดในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อเสริมทัพในเดือน มกราคมนี้ โดยที่ผ่านมาถือได้ว่ากุนซือ อย่าง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) นั้นใช้เงินไปอย่างมหาศาล ในการทุ่มซื้อนักเตะหลายๆ คนมาร่วมทีม อย่างในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาคว้าทั้ง เลนี่ โยโร่ (Leny Yoro) ,มัตไธจ์ เดอ ลิกต์ (Matthijs de Ligt) ,โจซัว เซิร์กซี่ย์ (Joshua Zirkzee) ,นุสแซร์ มาสซาราอุย (Noussair Mazraoui) และ มานูเอล อูการ์เต้ (Manuel Ugarte) เรียกได้ว่า ไม่ว่า เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ต้องการอย่างไร สโบบอลเดี่ยว ทางทีมงานของ ปิศาจแดง ก็ไม่เคยปฏิเสธเลย หลังจากที่ กุนซือชาวดัตช์ ถูกปลดออกไป ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ได้ รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) มาคุมทีมแทน แต่ก็ทำให้ทีม ปิศาจแดง นั้นมีข้อจำกัดในการเสริมทัพอย่างมาก ทำให้สื่อต่างตีแผ่ว่า สโบบอลเดี่ยว ที่ผ่านมาทีมคัพสรรของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) พลาดมหันต์ ที่ปล่อยให้ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ถลุงเงินคลังได้แบบ วายวอดถึงเพียงนี้ จนมาตอนนี้ บอร์ดของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United)  ต้องมาปรับลดโน่นนี่ แม้กระทั่งตอนนี้ แทบจะไม่เหลือเงินคลังไว้ให้กุนซือคนใหม่ได้ใช้เลยด้วยซ้ำ

 

หลุยส์ ซาฮา ตำนาน แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาฟันธงว่าการที่ รูเบ็น อโมริม ตัดสินใจ ไม่ร่วมงานกับ รุด ฟาน นิสเตอรอย ส่วนหนึ่งก็มาจากอีโก้ ของกุนซือคนใหม่นั่นเอง

 

หลุยส์ ซาฮา (Louis Saha) อดีตดาวเตะปิศาจแดง ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าการที่ รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) ตัดสินใจไม่ร่วมงาน กับ รุด ฟาน นิสเตอรอย  (Ruud van Nistelrooy) ต่อไปนั้น มันน่าจะมาจาก อีโก้ส่วนตัวของ รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) นั่นเอง ทั้งที่ในช่วงที่ รุด ฟาน นิสเตอรอย  (Louis Saha) มองว่า ทาง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) ไม่อยากให้ทาง รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) มีผลกับการทำงานของเขา ตัวของกุนซือคนใหม่แห่งถิ่น โอลด์ ทราฟฟอร์ดต้องการใส่ความเป็นตัวเขาเองลงไปให้มากที่สุดนั่นเอง

PGMOL ดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาใหม่ต่อ เดวิด คูท

PGMOL ดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาใหม่ต่อ เดวิด คูท

องค์กรผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก (PGMOL) ได้ออกแถลงการณ์ว่าพวกเขากำลังพิจารณาข้อกล่าวหาล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก เดวิด คูท (David Coote) อย่างจริงจัง โดยขณะนี้ คูทถูกสั่งพักงานชั่วคราวเพื่อรอผลการสอบสวน ข้อกล่าวหานี้เริ่มต้นจากการปรากฏตัวของวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าเขาอาจได้กล่าวถึง เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) ในเชิงดูหมิ่น

beer000 ให้บริการเกมคาสิโนออนไลน์หลากหลายประเภท เช่น บาคาร่า รูเล็ต และสล็อต เพื่อความบันเทิงครบครัน

การตอบสนองของ PGMOL และการสนับสนุนคูท

หลังจากการเผยแพร่ของวิดีโอ PGMOL ได้ตัดสินใจระงับการทำงานของคูทชั่วคราวและยืนยันว่า “กำลังดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง” โดยโฆษกของ PGMOL กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามุ่งมั่นในการให้ความสนับสนุนที่จำเป็นแก่เดวิดในช่วงเวลานี้ และเรายังคงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของเขาอย่างสูงสุด” โดย PGMOL ยังระบุเพิ่มเติมว่าในขณะนี้พวกเขายังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวนได้ จนกว่าผลการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น

นอกจากวิดีโอที่ถูกเปิดเผยแล้ว เมื่อไม่นานมานี้สื่อ The Sun ยังได้เผยแพร่ภาพที่คาดว่าถ่ายระหว่างการแข่งขันยูโร 2020 ที่เดวิด คูท ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ตัดสิน โดยภาพนั้นแสดงให้เห็นว่าคูทอาจกำลังใช้ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ ม้วนสูดผงสีขาว อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ และ PGMOL ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ยูฟ่าลงโทษและเริ่มสอบสวน

หลังจากที่ยูฟ่า (UEFA) ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาได้ทำการระงับการทำงานของคูททันที โดยยูฟ่าได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางจริยธรรมและวินัยเพื่อพิจารณาว่าเหตุการณ์นี้เป็นการละเมิดกฎระเบียบหรือไม่ ยูฟ่าระบุเพิ่มเติมว่า คูทถูกระงับจากการทำหน้าที่ในเกมนานาชาติซึ่งเขามีตารางการแข่งขันในรอบถัดไป

โฆษกของยูฟ่าได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการผู้ตัดสินของยูฟ่าได้ดำเนินการระงับการทำงานของเดวิด คูท ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน โดยเขาถูกพักงานจนกว่าจะมีการสอบสวนอย่างเป็นทางการและเสร็จสิ้นการตรวจสอบ”

ผลกระทบจากเหตุการณ์และการตอบสนองจากสาธารณะ

ข้อกล่าวหาต่อเดวิด คูท ในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนและสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาในส่วนของกฎหมายและจริยธรรมเพื่อประเมินถึงการกระทำของคูทเพิ่มเติม สำหรับคูทเอง ยังไม่มีการให้ความเห็นใดๆ ต่อสาธารณะในขณะนี้ โดยทีมข่าว BBC กำลังพยายามติดต่อเพื่อให้คูทได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เช่นกัน

การดำเนินการของทั้ง PGMOL และยูฟ่าเป็นการแสดงถึงความจริงจังในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานด้านจริยธรรมของผู้ตัดสิน ในขณะที่กระบวนการสอบสวนยังคงดำเนินอยู่ คูทจึงยังคงถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ในทุกระดับ

ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมเดิมพันกับ beer000 ได้ง่าย ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง

โค้ชคนใหม่ของแมนยู อโมริม ยอมรับว่าคิดถึงแมนซิตี้

โค้ชคนใหม่ของแมนยู อโมริม ยอมรับว่าคิดถึงแมนซิตี้

โค้ชคนใหม่ของแมนยู อโมริม ยอมรับว่าคิดถึงแมนซิตี้

รูเบน อโมริม (Ruben Amorim) ยอมรับว่า “เคยคิด” ว่าอาจจะไปทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เช่นเดียวกับ ฮูโก้ วิอานา (Hugo Viana) ผู้อำนวยการฟุตบอลของสปอร์ติ้ง ซีพี แต่เขากล่าวว่าเป้าหมายหลักของเขาคือการมาเป็นโค้ชให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) 

อโมริมจะนำทีมสปอร์ติ้งแข่งกับซิตี้ในศึกแชมเปียนส์ลีกวันอังคาร ซึ่งเป็นเกมรองสุดท้ายก่อนที่จะรับตำแหน่งโค้ชที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

การตัดสินใจรับช่วงต่อจาก เอริก เทน ฮาก ของเขามีขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากที่ซิตี้จ้าง วิอานา อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของสปอร์ติ้ง มาแทนที่ ชิกี้ เบกิริสไตน์ ในสิ้นสุดฤดูกาล

อโมริมเผยว่าเคยคิดถึงการไปทำงานที่เอติฮัด สเตเดี้ยมเช่นกัน แต่เขายืนยันว่ามีความสุขกับการตัดสินใจมาร่วมงานกับยูไนเต็ด sbobet ทางเข้า รับชมฟุตบอลได้

“มันเป็นความคิดที่ผ่านเข้ามาในหัว แต่ผมไม่เคยลังเลใจเลย” อโมริมกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์

“การตัดสินใจของผมถูกกำหนดไว้แล้ว และนั่นคือสโมสรที่ผมอยากจะทำงานให้ ที่นั่นคือที่ที่ผมอยากจะสร้างเส้นทางอาชีพการเป็นโค้ช มันเคยคิดอยู่ในหัว แต่ผมตัดสินใจแล้วและไม่ต้องการสิ่งอื่น ผมต้องการแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และผมก็ทำตามนั้น”

อโมริมจะเริ่มบทบาทใหม่ของเขาในวันที่ 11 พฤศจิกายน และเขาจะพบกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในลิสบอนวันอังคารนี้ ก่อนที่จะพบกันอีกครั้งในดาร์บีแมตช์ของแมนเชสเตอร์ที่เอติฮัดในวันที่ 15 ธันวาคม

ทีมของกวาร์ดิโอล่าเคยเอาชนะสปอร์ติ้งไปอย่างขาดลอย 5-0 ในรอบ 16 ทีมของแชมเปียนส์ลีกปี 2022

“พวกเขาเล่นคล้ายกับที่เราพบกันเมื่อสองฤดูกาลก่อน รูปแบบการเล่นชัดเจนมาก” กวาร์ดิโอล่ากล่าวเมื่อวันจันทร์ “พวกเขาเปลี่ยนนักเตะบ้าง แต่ยังคงโค้ชคนเดิมและมีแนวคิดเดิม”

แฟน ๆ ของยูไนเต็ดจำนวนมากน่าจะรอชมเกมของสปอร์ติ้งกับซิตี้เพื่อดูโค้ชคนใหม่ของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม อโมริมเตือนว่าไม่ควรตัดสินความเหมาะสมของเขากับตำแหน่งโค้ชยูไนเต็ดจากเกมเดียวกับทีมของกวาร์ดิโอล่า

“ข้อสรุปที่ผู้คนจะคิดจากเกมนี้ไม่สำคัญสำหรับผม” เขากล่าว

“หากผลลัพธ์ไม่ดี [กับซิตี้] ความคาดหวังจะลดลง ถ้าเราชนะในวันพรุ่งนี้ ผู้คนอาจคิดว่ามีเฟอร์กูสันคนใหม่มาแล้ว และแน่นอนว่ามันจะยากที่จะเป็นไปตามความคาดหวังนั้น

“ผมไม่สนใจข้อสรุปที่ผู้คนจะคิด สิ่งที่ผมสนใจคือการชนะเกมนี้แล้วเริ่มชีวิตใหม่ในแมนเชสเตอร์

“เราจะมีสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ความคาดหวังเพิ่มขึ้น ผมไม่รู้ว่าอันไหนจะดีกว่าสำหรับผม” sbobet ทางเข้า login เข้าสู่ระบบสมาชิก

 

ลิเวอร์พูล

หงส์อย่างเอาว่ะ โดน ไบร์ทตันฯ นำไปก่อนในครึ่ง ใครเห็นก็ว่าคาบ้าน แต่ครึ่่งหลังรัวแซง 2-1 ชนะ นำฝูง ส่วน เรือใบสีฟ้า ตาม อาร์เซน่อลไป แพ้เรียบทั้งคู่

ลิเวอร์พูล  (LIVERPOOL) ทำได้หลังเปิดรังแอนฟิลด์ เอาชนะ ไบร์ทตัน  (Brighton) ไปได้ 2-1 ซึ่งเอาจริงๆ เกมนี้ ไบร์ทตัน (Brighton) ทำได้ดีมากๆ ในครึ่งเวลาแรก กดดันใส่เจ้าบ้านได้ดี จนได้ประตูนำไปก่อน ในนาทีที่ 14 จาก เฟรดี้ คาดิโอกลู (Ferdi Kadıoğlu) ดาวเตะชาว ตุรกี ที่ทำประตูได้ในเกมนี้ หลังจากนั้น ก็ดูแล้วไม่เห็นวี่แววว่า ลิเวอร์พูล  (LIVERPOOL) จะมีโอกาสทำประตูตีเสมอ กลับกัน เป็นทาง ไบร์ทตัน ที่มีโอกาสจะบวกลูกสองเพิ่มหลายต่อหลายครั้ง  จบครึ่งแรกเป็นทีมเยือน ไบร์ทตัน (Brighton) ที่ออกนำ 1-0 แถมรูปเกมก็ดีกว่าเจ้าบ้าน การครองบอลก็เหนือกว่า ดูๆ แล้วสถานการณ์เจ้าบ้านอย่างลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) นั้นดูไม่ดีเอาเสียเลย แต่ใครจะรู้ว่าครึ่ง อะไรมันจะเกิดขึ้น

 

ครึ่งหลังหงส์เร่งเครื่อง ไบร์ทตัน กลายเป็นฝ่ายชะงัก ขณะที่ เรือใบยิงเล่นยิ่งแย่ ฮาแลนด์ พลาดท้ายเกมถึงกับแพ้ ส่งผลให้หงส์แดงที่่แซงเก็บชัย นำฝูงสำเร็จ

 

ก่อนเกมคู่ 22.00 น. จะเริ่ม อาร์เซน่อล (Arsenal) ที่ลงเล่นก่อน ดันแพ้ไปก่อนเสียแล้ว ทำให้ ในเกมคู่สี่ทุ่ม ทั้งแมนฯ ซิตี้ (Man City) และ ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) หากว่าทีมใดชนะ จะทิ้ง อาร์เซน่อล (Arsenal) ไปแบบห่างไกล อย่างน้อยมี 7 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งตอนจบครึ่ง อาร์เซน่อล (Arsenal) ก็ยังจะพอใจชื้นได้บ้าง หลังจากที่ ทั้ง ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) และ แมนฯ ซิตี้ (Man City) ตามหลังคู่ต่อสู้ ทั้งคู่ และพอมาครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ (Man City) มาโดนเพิ่ม เป็น 2-0 สถานการณ์ เริ่มไม่สู้ดีนักสำหรับเรือใบสีฟ้า กลับกัน ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) สามารถตีเสมอได้สำเร็จ จากการยิงของ โคดี้ กัคโป (Cody Gakpo) ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเปิดบอลไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ (Darwin Nunez)  แต่แล้วมันเลยไปทำให้ เกมรับ ไบร์ทตัน (Brighton) เสียจังหวะ จนเข้าประะตูไปเลย หลังจากนั้นไม่นาน หงส์บี้ขี้แตก มาแซงนำได้สำเร็จ เล่น sbobet จากความยอดเยี่ยมของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) หงส์แดง พลิกแซงนำแล้ว 2-1 สถานการณ์เข้าทาง ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) แบบสุดๆ แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูตีตื้น ในช่วงท้ายเกมไล่มาเป็น 2-1 ทำให้ยังพอมีหวัง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ (Man City) มีโอกาส จะไล่ตีเสมอได้สำเร็จ แต่ว่า ลูกโหม่งจ่อๆ ของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (Erling Haaland)  นั้นโหม่งออกไปเฉย จบเกมแมนฯ ซิตี้ (Man City) แพ้ บอร์นมัธ (AFC Bournemouth) ไป 2-1 เล่น sbobet  ในขณะที่ ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL)  เก็บชัยชนะได้สำเร็จ 2-1 ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงเรียบร้อย โดยทิ้ง แมนฯ ซิตี้ (Man City) 2 คะแนน ทิ้ง อาร์เซน่อล (Arsenal) ไปเป็น 7 คะแนนเรียบร้อยแล้ว

 

หลังจบเกม อาร์เน่อ สล็อท ชี้ แก้เกมไม่เกี่ยว หงส์ทำได้เพราะหัวจิตหัวใจนักสู้แบบเพียวๆ ทำให้แซงชนะได้จากสถานการณ์ ที่ตามหลังก่อนในครึ่งแรก

 

หลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) นั้นพลิกเอาชนะทางด้านทีมเยือนอย่าง ไบร์ทตัน  (Brighton)  ไปได้ 2-1 ทำให้เวลานี้หงส์แดง ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) กลายเป็นทีมที่ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในช่วงจบครึ่งแรกนั้น ทางด้าน ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) ตามหลังอยู่ 1-0 ครึ่งหลังทางด้านของ อาร์เน่อ สล็อท (Arne Slot) มีการเปลี่ยนแปลงแก้แท็คติก จนบรรดานักข่าวต่างสนใจว่า อาร์เน่อ สล็อท (Arne Slot) แก้เกมจนพาหงส์เฮได้ในที่สุด ในเรื่องนี้ ทางด้าน อาร์เน่อ สล็อท (Arne Slot) กล่าวว่า เรื่องของการเปลี่ยนแท็คติก นั้นมีส่วนนิดหน่อย แต่ทั้งหมดต้องยกให้ลูกทีมของเขา ที่ยกระดับและทัศคติที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ เริ่มครึ่งหลัง บุคลิก ที่ไม่ยอมแพ้นี้มันถูกฝังอยู่ใน ดีเอ็นเอ ของนักเตะหงส์แดง ทั้งหลายอยู่แล้ว ตั้งแต่่สมัยยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ นักเตะทุกคนไม่อยากที่จะแพ้ ครึ่งหลังพวกวิ่งมากขึ้นและสามารถทำผลลัพธ์ ให้ออกยอดเยี่ยมได้ในที่สุด ตอนนี้สิ่งที่เขา ชื่นชอบมากว่าตารางคะแนน ก็คือการที่ทีมของเรา โดนนำก่อนแต่ทุกคนสามารถที่ร่วมกันสู้จนกลับมาเอาชนะได้สำเร็จ อยากให้ทีมรักษาคาแรกเตอร์นี้ต่อไป

อาร์เซนอล

อาร์เซนอลสู้สุดใจ – แต่ต้องแลกมาด้วยอะไร ในขณะที่ช่องว่างที่น่ากังวลเริ่มเปิดกว้างขึ้น

อาร์เซนอล

อาร์เซนอลสู้สุดใจ – แต่ต้องแลกมาด้วยอะไร ในขณะที่ช่องว่างที่น่ากังวลเริ่มเปิดกว้างขึ้น?

อาร์เซนอล (Arsenal) สู้สุดชีวิตในเกมเสมอ ลิเวอร์พูล (Liverpool) 2-2 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม (Emirates Stadium) แต่ช่องว่างคะแนนที่เปิดกว้างขึ้นเริ่มน่ากังวล

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล (Arsenal) พยายามมองหาสัญญาณบวกที่จะพาทีมก้าวขึ้นจากผู้ท้าชิงสู่แชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจ ทีมแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในสถานการณ์ที่แนวรับบางตาลง แต่การได้เพียงหนึ่งแต้มแทนที่จะเป็นสามแต้มสร้างความผิดหวังอย่างมากและทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด www.beer777.com login สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

บูคาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) และ มิเกล เมริโน่ (Mikel Merino) ทำประตูให้ทีมนำ แต่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ยิงประตูตีเสมอจากจังหวะสวนกลับในช่วง 9 นาทีสุดท้าย ทีมต้องเผชิญกับปัญหาการบาดเจ็บของ กาเบรียล (Gabriel) และ จูร์เรียน ทิมเบอร์ (Jurrien Timber) ในครึ่งหลัง รวมถึงการขาด วิลเลียม ซาลิบา (William Saliba) ที่ติดโทษแบน และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ (Riccardo Calafiori) ที่บาดเจ็บ

ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) นำจ่าฝูงด้วยการเปิดช่องว่าง 5 คะแนน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลสำหรับ อาร์เซนอล (Arsenal) ที่พลาดแชมป์ให้กับ ซิตี้ (City) ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา

แนวรับของทีมในเกมนี้ประกอบด้วย โธมัส ปาร์เตย์ (Thomas Partey), เบน ไวท์ (Ben White), จาคุบ คีวิออร์ (Jakub Kiwior) และ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ (Myles Lewis-Skelly) วัย 18 ปี ทีมขาดความทะเยอทะยานในการใช้ประโยชน์จากความเหนือกว่าในครึ่งแรก ทำให้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) มีโอกาสกลับมาในเกม

ซาลาห์ (Salah) ยิงประตูที่ 8 ของฤดูกาลจากการจ่ายของ ดาร์วิน นูเญซ (Darwin Nunez) พร้อมทำ 7 แอสซิสต์ เทียบเท่าสถิติของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (Robbie Fowler) ที่ 163 ประตูใน พรีเมียร์ลีก (Premier League)

อาร์เซนอล (Arsenal) ไม่แพ้ทีมในกลุ่ม “บิ๊กซิกซ์” มา 14 เกมแล้ว แต่ปัญหาการบาดเจ็บเริ่มส่งผลกระทบ ฤดูกาลที่แล้ว ซาลิบา (Saliba) ลงเล่นครบ 38 เกม กาเบรียล (Gabriel) พลาดแค่สองเกม เช่นเดียวกับ มาร์ติน โอเดการ์ด (Martin Odegaard) และ ซาก้า (Saka)

อาร์เตต้า (Arteta) แสดงความภูมิใจในทีม แต่ยอมรับว่าผิดหวังที่ไม่สามารถรักษานำได้ ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ได้เปรียบในการป้องกันแชมป์ และประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าการนำ 5 คะแนนเป็นความได้เปรียบที่สำคัญสำหรับพวกเขา อาร์เซนอล (Arsenal) ต้องหวังว่าจะไม่ใช่การเปิดช่องว่างที่มากเกินไปที่จะไล่ตาม

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ อาร์เซนอล มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด www.beer777.com login สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

อาร์เซนอลจะเอาชนะลิเวอร์พูลได้หรือไม่?

อาร์เซนอลจะเอาชนะลิเวอร์พูลได้หรือไม่?

อาร์เซนอลจะเอาชนะลิเวอร์พูลได้หรือไม่?

อาร์เซนอล (Arsenal) ต้องเผชิญกับปัญหาการบาดเจ็บเมื่อเจอกับลิเวอร์พูล (Liverpool) ซึ่งเป็นจ่าฝูงของลีกในเกมสำคัญ

ไม่มีใครในอาร์เซนอลคาดหวังว่าการทำลายช่วงเวลา 21 ปีที่ไม่มีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกจะเป็นเรื่องง่าย แต่มันจะต้องยากขนาดนี้เลยหรือ? เมื่อเกมกับลิเวอร์พูลใกล้เข้ามา ฤดูกาลที่ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งความสำเร็จกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่แสนยากลำบาก สโบเบ็ตมือถือ sbobet moblie

เกือบทุกอย่างที่อาจผิดพลาดได้ก็เกิดขึ้น อาร์เซนอลไม่เคยเผชิญกับปัญหาการบาดเจ็บหนักหน่วงเท่านี้ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) เองก็ยังไม่สามารถเลือกนักเตะจากที่มีได้ครบ แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาหนักเมื่อบรรดาผู้เล่นที่เป็นตัวหลักหลายคนพลาดลงสนาม ทั้งกาเบรียล เฆซุส (Gabriel Jesus), ไค ฮาแวร์ตซ์ (Kai Havertz) และจอร์จินโญ่ (Jorginho) ล้วนเข้ามาเสริมแทนกันไปมาในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา

ฤดูกาลนี้ การบาดเจ็บเกิดขึ้นกับผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน อาร์เตต้ามีผู้เล่นฟูลแบ็คหกคนที่สามารถเลือกใช้งานได้ในทีมแรก แต่ทั้งหมดต่างเคยประสบอาการบาดเจ็บกันหมด ทั้งทาเคฮิโระ โทมิยาสุ และเคียแรน เทียร์นีย์ยังคงพลาดลงสนามในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่เจอร์เรียน ทิมเบอร์ก็ยังไม่แน่นอน

ไม่เพียงเท่านี้ ทั้งการถูกพักแข่งและการบาดเจ็บยังทำให้มิดฟิลด์ที่อาร์เตต้าเลือกไว้ไม่ได้ลงเล่นพร้อมกันเลย โอเดการ์ดต้องพลาดลงสนามไปถึงห้านัดจากการบาดเจ็บที่ข้อเท้า หลังจากการขาดหายไปของบูคาโย่ ซาก้า ซึ่งทำให้เกมรุกของทีมชะลอตัวในสองนัดล่าสุด

การแถลงข่าวของอาร์เตต้าสะท้อนให้เห็นว่าเขาก็ไม่ทราบเลยว่าทีมตัวจริงจะเป็นอย่างไร เป็นไปได้ว่าอาร์เซนอลอาจจะต้องลงแข่งโดยไม่มีผู้เล่นกองหลัง มิดฟิลด์ และกองหน้าที่ดีที่สุดของพวกเขา

แต่ดูเหมือนว่าอาร์เตต้าไม่สะทกสะท้าน และยังดูท้าทายกับการพิสูจน์ศักยภาพของทีมเขาเมื่อมีโอกาสเจอกับจ่าฝูงในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุด

การรักษาทัศนคตินี้ในช่วงที่อุปสรรคเข้ามาไม่หยุดหย่อนอาจไม่ง่าย แต่ถึงแม้การบาดเจ็บและการถูกพักแข่งจะรบกวน แต่ยังคงมีศักยภาพที่ทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับต้นๆ ของตาราง

“เรารู้ว่าเรามีทีมที่แข็งแกร่ง และรู้ว่าเราสามารถทำให้คู่ต่อสู้ลำบากแค่ไหน การมีจิตวิญญาณที่เข้มแข็งเป็นสิ่งที่ผมชอบ” อาร์เตต้ากล่าว

แม้ว่าโชคของอาร์เซนอลอาจจะไม่เข้าข้าง แต่การเอาชนะลิเวอร์พูลจะเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของทีม

สโบเบ็ตมือถือ รับรองทั้งระบบ ios และ android แล้ว

 

“ความวุ่นวายใน แมนยูฯ ย้อนกลับไปถึงปี 2013 – เอฟรา”

แมนยู“ความวุ่นวายใน แมนยูฯ ย้อนกลับไปถึงปี 2013 – เอฟรา”

ปาทริซ เอฟรา (Patrice Evra) แชมป์พรีเมียร์ ลีก (Premier League) 5 สมัย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ว่าอนาคตของสโมสรไม่สดใส โดยสโมสรตกอยู่ในความวุ่นวายมานานกว่าทศวรรษ

ทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) คว้าแชมป์ลีกครั้งล่าสุดในปี 2013 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) ผู้จัดการทีมในตำนาน และปัจจุบันอยู่อันดับที่ 12 ในตารางภายใต้การนำของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag)

เอฟรา (Evra) ได้ออกจากทีมหนึ่งปีหลังจาก เฟอร์กูสัน (Ferguson) และอดีตกัปตันทีมชาติ ฝรั่งเศส เชื่อว่า ยูไนเต็ด ยังคงต้องแบกรับผลจากการสูญเสียประสบการณ์การคว้าแชมป์เช่นนี้ “มันเป็นเรื่องยากเสมอที่จะพูดถึง ยูไนเต็ด ในตอนนี้ เพราะในอดีตเราเล่นเพื่อแฟนๆ เพื่อตราสโมสร เพื่อประวัติศาสตร์” เขาบอกกับ บีบีซี สปอร์ต เอ็นไอ (BBC Sport NI) และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด การพนันฟุตบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ในช่วงที่ เอฟรา อยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอล อังกฤษ ตอนนี้เขาเชื่อว่าพวกเขาถูกแซงหน้าไปแล้ว ไม่เพียงแค่โดยคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) แต่รวมถึง ลิเวอร์พูล (Liverpool) และ อาร์เซนอล (Arsenal) ด้วย

“แม้ผมจะพยายามมองโลกในแง่ดี แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้รู้สึกท้อใจ” เอฟรา กล่าวด้วยความกังวล “คู่แข่งของเรากำลังแสดงฟอร์มที่เหนือกว่า ทั้งในแง่ผลงานและสไตล์การเล่น ทำให้อนาคตดูไม่สดใสเท่าที่ควร นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ”

“ลิเวอร์พูลเคยรอแชมป์ลีก 30 ปี ส่วนยูไนเต็ดตอนนี้ก็ 11 ปีแล้ว ผมหวังว่าเราจะไม่ต้องรอนานเหมือนพวกเขา”

นอกจากนี้ เจ้าของสโมสร ยูไนเต็ด ยังถูกวิจารณ์เกี่ยวกับข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟอร์กูสัน จะลาออกจากตำแหน่งทูตสโมสรเมื่อจบฤดูกาลนี้ “เรื่องของ เฟอร์กูสัน ผมยังทำใจไม่ได้” เอฟรา ผู้คว้าแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ปี 2008 กล่าวเพิ่มเติม

เอฟรา เชื่อว่าแชมป์ ลีก คัพ (League Cup) และ เอฟเอ คัพ (FA Cup) ที่ เทน ฮาก คว้ามาได้ตลอดสองฤดูกาลเต็มในการคุมทีม “ไม่เพียงพอ” สำหรับสโมสรระดับ ยูไนเต็ด และคิดว่าการขาดถ้วยรางวัลในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้บริหารที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้องยอมรับการ “สร้างทีมใหม่” อย่างเต็มรูปแบบ

อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสออกมาแสดงความเห็นว่า แม้ เทน ฮาก จะพาทีมคว้าถ้วยรางวัลได้ 2 ใบในระยะเวลา 3 ปี แต่สำหรับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว ความคาดหวังนั้นสูงกว่านั้น โดยเฉพาะการต้องคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ในทุกฤดูกาล

เขาเสริมว่า “เราต้องเลิกพูดถึงความสำเร็จในอดีต ยูไนเต็ดในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สิ่งที่เราต้องทำคือการสร้างทีมขึ้นมาใหม่และมุ่งหน้าสู่อนาคต เพื่อพาสโมสรกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง”

เอฟรา ยังเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากโครงสร้างภายในสโมสร ไม่ใช่แค่เรื่องผู้จัดการทีมหรือนักเตะเท่านั้น “ทุกคนต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่ระดับบอร์ดบริหาร ผู้จัดการทีม โค้ช ไปจนถึงนักเตะ เราต้องกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกัน และสร้างวัฒนธรรมการชนะให้กลับคืนมา เหมือนในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด การพนันฟุตบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ