Category Archives: อัตเดทความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอล

แอนฟิลด์

การเดินทางไปยังแอนฟิลด์ สนามบอลในฝันของคนทั่วโลก

แอนฟิลด์

แอนฟิลด์

สำหรับการเดินทางไปยังแอนฟิลด์ สามารถใช้เส้นทางเดียวกันกับ การเดินทางไปยังสังเวียนแข้ง กูดิสันปาร์ก โดยใช้ถนน เอ็ม 6 ถ้าเดินทางมาจากทางเหนือ โดยใช้เลี้ยวออกที่แยก 23 เพื่อเข้าถนนเอ 5 80 ขับต่อมาจนถึง เอ 57 ซึ่งจะเป็นถนนที่ลอดผ่านใต้สะพานรถไฟ

ถนนนี้จะนำคุณไปยัง อาร์คเลน ซึ่งสนามจะตั้งอยู่สุดถนนเส้นนี้ แต่โปรดระวังการจอดรถเนื่องจากพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่จอดรถส่วนบุคคล

ส่วนการเดินทางมาจากฝั่งตะวันออก และทางตอนใต้ ให้มาตามถนนเอ็ม 62 โดยพยายามชิดขวาเอาไว้เพื่อเตรียมถนน เอ 5058 คุณจะต้องขับผ่านโบสถ์ เซนต์ แม็ทธิวส์ หลังจากนั้นอีกครึ่งไมล์ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกไฟแดง หลังจากที่ลอดใต้สะพานรถไฟมาแล้ว ให้คุณใช้เส้นทางเดียวกันกับที่มาจากเหนือกระทั่งถึงสนาม

ส่วนการเดินทางมาจากทิศเหนือสามารถมาได้ทั้งเส้น เอ็ม 53 และเอ 41 โดยคุณจะต้องลอดผ่านใต้อุโมงค์เมอร์ซี่ ขับต่อมาจนถึงถนน เอ580 ให้ใช้เส้นทางสายนี้มาจนกระทั่งถึงไฟแดง ให้เลี้ยวขวาและขับรถไปตามถนนที่ผ่านเนินมา เมื่อถึงแยกไฟแดงให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนน เอ 5089 ซึ่งสนามแอนฟิลด์จะอยู่สุดถนนเส้นนี้ทางด้านซ้ายมือ

สำหรับการเดินทางโดยรถบัสให้ใช้สาย เอ 26 หรือ เอ 27 โดยขึ้นจากสถานี พาราไดส์ หรือใช้บริการสาย 17B, 17C,17D หรือ 217 จากสถานีควีน สแควร์ นอกจากนั้นยังสามารถใช้บริการสาย 68.168 และ 14 ได้อีกด้วย

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟให้มาลงที่สถานี ไลม์ สตรีท ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสนามแอนฟิลด์ราว 2 ไมล์ วิธีการไปสนามที่ง่ายที่สุดคือ ใช้บริการแท็กซี่จากสถานีไปยังสนามซึ่งจะมีค่าบริการอยู่ที่ราว 4 ปอนด์ โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน

นอกจากนั้นยังมีซอคเก้อร์บัส บริการจากสถานีแซนด์ฮิลส์ในวันที่มีการแข่งขัน โดยรถบัสเที่ยวสุดท้ายจะออกก่อนถึงเวลาแข่งขัน 15 นาที ส่วนหลังการแข่งขันรถเที่ยวสุดท้ายจะออกหลังจากจบเกม 50 นาที โดยค่าบริการอยู่ที่เที่ยวละ 50 เพนซ์

ส่วนตั๋วเข้าชมเกมนั้น ส่วนใหญ่เปิดขายสำหรับสมาชิกเท่านั้นครับ

เดโก้

ผลงานของเดโก้ทำให้เขากลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุด

 

เดโก้

เดโก้

เมื่อเดโก้ตัดสินใจย้ายทีมเมื่อหน้าร้อนของปี 2003 แฟนบอลในถิ่น ดาส อันทาส ก็เริ่มเคลื่อนไหวและเรียกร้องให้มิดฟิลร่างเล็กอยู่กับทีมต่อไป และมูรินโญ่ก็เปลี่ยนใจเขาสำเร็จ

อีกหนึ่งประตูในนัดชิงชนะเลิศของเดโก้ ทำให้เขาเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ และกลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของยุโรปไปในพริบตา

ในไม่ช้านักเตะที่ดีที่สุดของโปรตุเกสก็ขึ้นทำเนียบระดับอินเตอร์ แต่แทนที่จะเป็นทีมบ้านเกิดอย่างบราซิล เขากลับตอบรับคำเชื้อเชิญของโปรตุเกส ประเทศที่เป็นเหมือนบ้านที่สองแทน

คำตอบของเดโก้ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านไม่น้อย โดยเฉพาะจากยอดนักเตะอย่างหลุยส์ ฟิโก้ ที่ออกมากล่าวว่า ผมคิดว่าคนสเปนคงไม่พอใจนักหรอกหากผมจะเล่นในทีมชาติสเปน เพียงแค่ผมเล่นให้สโมสรสเปนเท่านั้น มันทำให้สปิริตของทีมเสียไป ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ทว่าเสียงต่อต้านจากฟิโก้กลับไม่เป้นผลเท่าไหร่ในมุมมองของหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนชือทีมชาติโปรตุเกสในขณะนั้นที่เป็นคนบราซิลเสียด้วย และเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากได้รับสัญชาติโปรตุเกส ชื่อของเดโก้ ก็ปรากฏหราอยู่ในทีมเรียบร้อย

กลายเป้นเรื่องบังเอิญอีกเช่นกันที่คู่แข่งในนัดแรกของเขาคือทีมชาติบราซิล เดโก้ รับหน้าที่สังหารฟรีคิกตุงตาข่ายให้โปรตุเกสเอาชนะทีมเซเลเซาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี ขณะที่ฟิโก้ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก

ปัญหาเดียวในตอนนั้นคือสิ่งที่ผมได้อ่านจากสื่อนั่นแหละ ไม่เช่นนั้นผมคงไม่รูหรอกว่ามันเป้นเรื่องใหญ่ ในเมื่อพวกเราเข้ากันได้ดีในห้องแต่งตัว เดโก้เน้น

ลุค แชดวิค

ลุค แชดวิคจ่อคิวก้าวสู่ทีมผีแดงชุดใหญ่

ลุค แชดวิค

ลุค แชดวิค

สำหรับนักเตะรายแรกที่จ่อคิวก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ก่อนใครเพื่อนไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ ลุค แชดวิค มิดฟิลด์หน้าจืด นั่นเอง แชดวิค เล่นในตำแหน่งปีกขว่าและลีลาการเล่นคล้ายกับ “พ่อบรู๊คลีน” เดวิด เบ๊คแฮม เลยทีเดียว ปีกขวาหน้าเจื่อนผู้นี้อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 1997 โดยก่อนหน้าเคยไปฝึกซ้อมกับปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เขาโชว์ฟอร์มในช่วงหลังได้โดดเด่นมากจน เฟอร์กี้อาจยอมหุบ เบ๊คแฮมมาเล่นเป็นมิดฟิวด์ตัวกลางก็เป็นไปได้ แชดวิค ติดทีมชาติอังกฤษชุดยู -21 ปีไปแล้ว และ สตีฟ แม็คคลาเรน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมก็เผยด้วยว่าเขาเป็นนักเตะของทีมที่มีอนาคตสดใสมาก

“เราทุกคนต่างจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด ต่อมาทางทีมได้อนุญาตให้สโมสรในเบลเยี่ยมยืมตัวเขากลับมาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เราเลยเรียกตัวเขาเป็นกลับมาอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหมือนเดิม แชดวิค ลงสนามให้ทีมสำรองหนึ่งนัด และโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมาก เวลานี้หลายคนได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขาในศึก เวิร์ทธิงตัน ลีก คัพหรือ ซีซั่นนี้ และเขาก็สอบผ่านได้อย่างงดงามไร้ที่ติจริงๆ แม็คคลาเรน กล่าวลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวน แชดวิค นักเตะหนุ่มวัยแค่ 20 กะรัด และเป็นชาวเคมบริดจ์โดยกำเนิด ประเดิมสนามในสีเสื้อปีศาจ

นี่ถือว่าเป็นการมองการณ์ไกลและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากสำหรับการสร้างศูนย์ฝึกทีมเยาวชนขึ้นมา เพราะถือว่าเป็นการลงทุน การที่จะได้นักเตะดีๆซักคนมาครอบครองอาจจะต้องใช้เงินมากกว่าการสร้างศูนย์เยาวชนขึ้นมามากมายหลายเท่านัก การที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำการฝึกเยาวชนเพื่อเฟ้นหาตัวนักบอลที่เก่งกาจมาร่วมทีมนี้ ถือว่าเป็นความคุ้มค่าอย่างมากต่อทีมเลยทีเดียว

หลุยส์ ฟาล ฮาล จะต้องปรับแผนการเล่นของแมนยูให้หลากหลายขึ้น หากฤดูกาลหวังที่จะทำผลงานให้ดีกว่าที่ผ่านมา

หากพูดถึงผลงานโดยรวมของทีมแมนเชสเตอร์ ยูในเต็ดในฤดูกาลนี้ ต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่าดูเหมือน ทีมแมนยูภายใต้การทำทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาล ฮาลในฤดูกาลนี้นั้น ถือว่าทำผลงานได้ดีขึ้นพอสมควรเลยทีเดียวหากเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้านี้ เพราะจะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้นั้นทีมแมนยูภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาล ฮาลนั้น สามารถทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถก้าวขึ้นมารั้งอันดับอยู่ในโซนท็อปโฟร์ได้สำเร็จ หลังจากที่ฤดูกาลก่อนหน้านี้พวกเขาทำได้แค่เพียงเป็นทีมกลางตารางเท่านั้น จนต้องอดไปเตะรายการยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ผลงานของแมนยูถือว่าดีขึ้นพอสมควรนั่นเอง


หลุยส์ ฟาล ฮาล

แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องบอกว่า แม้จากผลงานโดยรวมของทีมแมนยูภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาล ฮาลในฤดูกาลนี้ จะถือว่าเป็นผลงานที่ดีขึ้นระดับนึงก็ตาม หากเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นก็ต้องบอกว่า ก็ยังถือว่าไม่ดีเท่าไหร่หากพูดถึงเกี่ยวกับเส้นทางการลุ้นแชมป์ เพราะฤดูกาลนี้หากพูดถึงการลุ้นแชมป์ลีกแล้ว แมนยูนั้นยังถือว่าทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะจะเห็นได้ว่า พวกเขาโดนเชลซีทิ้งคะแนนห่างไปหลายคะแนนเลย ดังนั้นเลยมองว่า แม้ผลงานฤดูกาลนี้แมนยูจะดีขึ้นก็ตาม แต่ทว่าหากพูดถึงเส้นทางลุ้นแชมป์แล้ว แมนยูภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นยังต้องปรับปรุงแก้ไขพอสมควรเลย ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่หลุยส์ ฟาล ฮาลควรแก้ไขให้ดีขึ้นอีกนั่นก็คือ แผนการเล่นของทีมนั่นเอง

นั่นก็เพราะว่า หลังจากที่ดูฟอร์มการเล่นของแมนยูที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่า แนวทางการเล่นและแผนการเล่นของแมนยูนั้น ยังไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่นัก เพราะดูเหมือนแผนการเล่นหลักๆของแมนยูในฤดูกาลนี้ หลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นพยายามใช้ มารูยาน เฟลไลนี่เป็นกำลังหลักของแผนการเล่นมากเกินไป เพราะจะเห็นได้ว่า แผนการเล่นในโดยส่วนใหญ่ของแมนยูในฤดูกาลนี้คือการเน้นฝากบอลให้กับเฟลไลนี่เป็นตัวทำเกมเป็นหลัก เพราะด้วยเจ้าเฟลไลนี่นั้น เป็นกองกลางที่สามารถพักบอลและเก็บบอลได้ดี ก็เลยจะเห็นได้ว่า การขึ้นเกมรุกของแมนยูส่วนใหญ่ในฤดูกาลนี้จะขึ้นโดยเจ้าเฟลไลนี่เป็นหลักนั่นเอง ซึ่งมองว่า หากฤดูกาลหน้านั้น หลุยส์ ฟาล ฮาลยังไม่ปรับแผนการเล่นของแมนยูให้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม อาจจะทำให้พวกเขาไปไม่ถึงแชมป์อีกครั้ง เพราะเหตุผลง่ายๆเลยก็คือ หากเมื่อไหร่ที่เจ้าเฟลไลนี่โดนประกบติด ก็จะทำให้แมนยูขึ้นเกมรุกไม่ได้ สุดท้ายก็จะส่งผลกระทบต่อการเก็บสามแต้มสำคัญของทีม ดังนั้นก็เลยทำให้คิดว่า หากฤดูกาลหน้า หลุยส์ ฟาล ฮาล หวังที่จะพาแมนยูให้ทำผลงานดีขึ้นกว่าฤดูกาลนี้ เขาควรจะต้องปรับแผนการเล่นของทีม ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ลาชิโอ

รู้จักกับอินทรีฟ้าขาวลาชิโอ

ลาชิโอ

ลาชิโอ

ตำนานแห่งลาชิโอ มีอายุครบร้อยหนึ่งปีเข้าให้แล้วเมื่อนับจนถึงปัจจุบัน โดยสโมสรแห่งนี้ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 1900 ด้วยแรงกายแรงใจของ ลุยจิ บิจาเรลลี่ นายทหารนอกประจำการ สัญลักษณ์ของสโมสรคืออินทรีโรมันที่เราคุ้นตากันดี

ในตอนแรก ลาชิโอเป็นสปอร์ตคลับที่มีทีมแข่งกีฬาหลากหลาย นอกจากกีฬาเดินทน, ว่ายน้ำ, ยิงธนู แล้วก็ยังมียิมนัสติก ฟุตบอล มาเกิดขึ้นภายหลังจากการส่งเสริมของบรูโด้ เซเก็ตตินี่ หนึ่งในผู้ถือหุ้นสโมสรราชิ่ง คลับ เดอ ปารีสส์ สโมสรดังในอดีตของฝรั่งเศสได้เดินไปโรมพร้อมกับลูกฟุตบอล และได้มอบมันให้แก่เหล่าผู้หลงไหลในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งนั้นทำให้สโมสรสีฟ้าและขาว เพื่อเป็นการให้เกียรติและแสดงการรำลึกต่อกรีชดินแดนต้นกำเนิดโอลิมปิก หลังเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกอุบัติขึ้นในปี 1902 ลาโซซิเอต้าสเปอร์ติว่า ลาชิโอค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้นตามลำดับ จนมาเข้าชิงชนะเลิศ เพื่อชิงแชมป์อิตาลีตามระบบเก่าได้ถึงสองสมัยในปี 1913 ที่แพ้ต่อเจนัว และในปี 1914 ก็พ่ายต่อคาซาเล่

กว่าโทรฟี่แรกของสโมสรจะลอยมาประดับตู้ พวกเขาต้องรอถึงกว่า 40 ปี โดยวันที่ 24 กันยายน 1958 ลาชิโอพิชิตถ้วยโคปป้า อิตาเลียมาครองสำเร็จ จากชัยชนะเหนือฟิออเรนติน่า 1-0 อีก 16 ปีแห่งการรอคอย เหล่าเบียงโกเซเลสติค่อยสมหวังกับสคูเด๊ตโต้แรกในปี 1974 ด้วยอิทธิฤทธิ์ 24 ประตูของคินาญ่าเป้นหลัก ขณะกำลังสุกสกาวอยู่ดีๆ นั้น ฟ้าก็คำรามโครมครามก่อนที่ลาชิโอจะถูกลงดาบไม่ให้เข้าร่วมโรเปี้ยน คัพ จากการที่ยูฟ่าแบนสโมสรเพราะแฟนบอลของพวกเขาก่อเหตุรุนแรงในยูฟ่า คัพ

กรีซมันน์

แอตมาดริดจะต้องไม่ปล่อยให้นักเตะตัวหลักย้ายออกอีกสำหรับตลาดซื้อขายรอบหน้า โดยเฉพาะ กรีซมันน์!

กรีซมันน์

กรีซมันน์

คงต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆ ว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา หากพูดถึงเกี่ยวกับกระแสของตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้าที่จะถึงหลังจบฤดูกาลนี้นั้น ดูเหมือนว่า สำหรับทีมแอตมาดริดของกุนซือ ดิเอโก้ ซิโมเน่นั้น จะกลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีนักเตะในทีมนั้น ตกเป็นข่าวการย้ายทีมมากทีมเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่า จากกระแสข่าวที่ผ่านมานั้น จะมีนักเตะของแอตมาดริดหลายคนเลยทีเดียว ที่เหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายให้ความสนใจ โดยเฉพาะหนึ่งในนักเตะของแอตมาดริดที่ตกเป็นข่าวมากที่สุดตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น นั่นก็คือ เจ้าอองตวน กรีซมันน์นั่นเอง

และด้วยการที่ดูเหมือน นักเตะของแอตมาดริดนั้น จะกลายเป็นที่สนใจของเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่หลายคนเลยนี้นั่นเอง ทำให้สำหรับในบทความนี้เลยจะขอพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้กันหน่อย นั่นก็เพราะคิดว่า ถ้าหากตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้าของฤดูกาลหน้าใหม่ หากทีมแอตมาดริดของกุนซือ ดิเอโก้ ซิโมเน่ยังปล่อยให้ตัวหลักของทีมย้ายออกไปอีกครั้งเหมือนตลาดซื้อขายก่อนหน้านี้ล่ะก็ บอกได้เลยว่า ไม่เป็นผลดีต่อทีมสำหรับในฤดูกาลหน้าแน่นอน

นั่นก็เพราะว่า หากแอตมาดริดปล่อยให้นักเตะตัวหลักของทีมย้ายออกไปอีก สำหรับตลาดซื้อขายรอบหน้านี้ จะไม่เป็นผลดีต่อผลงานของทีมในฤดูกาลหน้าสำหรับเส้นทางการลุ้นแชมป์ทั้งในลีกและนอกลีกนั่นเอง ซึ่งตัวอย่างของฤดูกาลนี้ ก็น่าจะพอเป็นตัวยืนยันได้ดีอยู่แล้ว ว่าแอตมาดริดไม่ควรปล่อยให้นักเตะตัวหลักของทีมย้ายออกไป โดยจะเห็นได้ว่า ก่อนหน้านี้ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้ที่ผ่านมา คือช่วงตลาดซื้อขายรอบแรกของฤดูกาลนี้นั้น แอตมาดริดปล่อยให้นักเตะตัวหลักของทีมย้ายออกไปหลายคนเลย ก็เลยทำให้ส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมในฤดูกาลนี้อย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนหน้านี้ แอตมาดริดทำผลงานได้ดีจนสามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกลาลีกาสเปนได้ แต่พอมาฤดูกาลนี้ การที่พวกเขาขาดนักเตะตัวหลักไปในบางตำแหน่ง ก็เลยทำให้ทีมต้องหานักเตะใหม่มาทดแทน ทำให้กว่าทีมจะลงตัวอีกครั้งนั้นก็ต้องใช้เวลา สุดท้ายก็เลยส่งผลต่อผลงานของทีม ที่จะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้แอตมาดริดทำผลงานบนเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นเลยคิดว่า หากตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้านี้ แอตมาดริดยังปล่อยให้นักเตะตัวหลักย้ายออกไปอีกนั้น จะส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมฤดูกาลหน้าอีกครั้งแน่นอน

โดยเฉพาะ เจ้าอองตวน กรีซมันน์ นั้น คือหนึ่งในนักเตะที่แอตมาดริดต้องไม่ปล่อยมีการย้ายทีมเกิดขึ้นได้ง่ายๆเด็ดขาด นั่นก็เพราะว่า เจ้าเจ้าอองตวน กรีซมันน์ นั้นถือว่าเป็นตัวทีเด็ดของแอตมาดริดเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า เขาคือคนที่ยิงประตูให้กับทีมได้เยอะที่สุดของฤดูกาลนี้ ดังนั้นหากปล่อยเขาออกไปจากทีมอีกคนสำหรับตลาดซื้อขายรอบหน้านี้ บอกได้เลยว่า โอกาสที่แอตมาดริดจะกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งบนเส้นทางลุ้นแชมป์ฤดูกาลหน้านั้น ลำบากแน่นอน เพราะเท่ากับว่า แอตมาดริดได้ขาดตัวทีเด็ดในแนวรุกที่คอยช่วยทีมผลิตสกอร์ไปอีกคนนั่นเอง.

แกเร็ธ เบล แลก ดาบิด เดเค อา เป็นดีลที่คุ้มค่าสำหรับแมนยูแล้วหรือ!

แกเร็ธ เบล

แกเร็ธ เบล

หากพูดถึงหนึ่งในนักเตะที่ทีมแมนเชสเตอร์ยูในเต็ดของกุนซือ หลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นตกเป็นข่าวด้วยบ่อยที่สุดในฤดูกาลนี้นั้น ไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอนว่า สำหรับนักเตะคนที่ว่านั้นก็คือ เจ้าแกเร็ธ เบล ปีกตัวเก่งของทีมรีลมาดริดนั่นเอง และยังต้องบอกว่า สำหรับกระแสข่าวเกี่ยวกับการให้ความสนใจแกเร็ธ เบล ของแมนยูนั้น ยังถือว่าเป็นหนึ่งในกระแสะข่าวที่น่าสนใจอีกด้วยว่าดีลดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นจริงๆรึเปล่า เพราะถ้าหากแมนยูสนใจอยากได้ตัวเจ้าแกเร็ธ เบล จริงๆ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ตัวเลขค่าตัวที่แมนยูจะต้องจ่ายให้กับทางรีลมาดริดนั้น คือตัวเลขเท่าไหร่ เพราะด้วยก่อนหน้านี้ทางรีลมาดริดได้ซื้อตัวเจ้าแกเร็ธ เบล เป็นตัวเลขที่แพงสุดๆเลย ซึ่งนั่นหมายความว่า หากพวกเขาจะขายให้แมนยูนั้น ก็คงเป็นตัวเลขที่แพงเช่นกันแน่นอนนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี หลังจากที่ได้ดูจากกระแสข่าวในช่วงระยะหลังๆที่ผ่านมาเกี่ยวกับสถานการณ์ของดีลนี้นั้น ดูเหมือนทางรีลมาดริดเองก็พร้อมที่จะปล่อยเจ้าแกเร็ธ เบล ออกไปจากทีมเหมือนกัน โดยเฉพาะกับแมนยูนั้น พวกเขายิ่งพร้อมที่จะให้ดีลดังกล่าวนี้เกิดขึ้น แต่ทว่าปัญหาก็คือ ทางแมนยูจะต้องใช้นายประตูตัวเก่งของทีมอย่างเจ้า ดาบิด เดเค อา เป็นหนึ่งในข้อเสนอด้วย เลยทำให้ต้องบอกว่า ถ้ารีลมาดริดยืนยันต้องการให้แมนยูทำให้ตามจากที่กล่าวมาข้างต้นจริงๆ ถือว่าดีลนี้จะกลายเป็นหนึ่งในดีลที่น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมากทันทีสำหรับในฤดูกาลหน้า เพราะคงจะต้องรอดูกันว่า ทางแมนยูนั้นจะยอมเสียนายประตูตัวเก่งของทีม เพื่อแลกกับปีกราคาแพงอย่างเจ้าแกเร็ธ เบล รึเปล่า และก็อยากให้ทางแมนยูลองคิดให้ดีๆด้วยเกี่ยวกับดีลนี้ ว่าสุดท้ายแล้วมันจะคุ้มค่าสำหรับพวกเขารึเปล่านั่นเอง

ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงๆรึเปล่า แต่สำหรับโดยส่วนตัวแล้วมองว่า ถ้าหากทางด้านรีลมาดริดต้องการให้ทางแมนยูส่งตัวเจ้าดาบิด เดเคอา เพื่อเป็นหนึ่งในข้อเสนอเพื่อคว้าตัวเจ้าแกเร็ธ เบลมาครองๆจริงๆนั้น บอกได้เลยว่า ในส่วนของทางแมนยูนั้น ไม่น่าจะคุ้มค่าเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะว่า ด้วยก่อนหน้านี้ ทางรีลมาดริดได้ทุ่มซื้อเจ้าแกเร็ธ เบล ไปเป็นเงินจำนวนสูงเลยทีเดียว ซึ่งเชื่อว่าต่อให้ทางแมนยูยอมแลกตัวกับเจ้า ดาบิด เดเคอาด้วยนั้น ยังไงบแมนยูก็คงจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหน่อยอยู่ดี ซึ่งมองว่าไม่น่าคุ้มค่าเท่าไหร่ อีกทั้งในขณะเดียวกันนั้น ในส่วนของฟอร์มและผลงานของเจ้าแกเร็ธ เบลเองที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ก็ใช่ว่าเขาจะทำได้ในระดับดีเท่าไหร่นัก ซึ่งหากเทียบกับฟอร์มของเจ้า ดาบิด เดเคอาแล้ว ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควรเลย เลยทำให้มองว่า หากต้องคว้านักเตะในตำแหน่งปีกที่ฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไหร่มาเสริมทีม แต่ต้องแลกด้วยนักเตะคนสำคัญที่ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ และมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมไม่เสียประตูสำคัญๆอยู่บ่อยครั้ง ยังไงก็มองว่าไม่คุ้มค่ากันแน่นอนนั่นเอง.

ฤดูกาลหน้า ถ้าเชลซีอยากสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ควรหาเพลย์เมกเกอร์เพิ่มอีกซักคน เพื่อเข้ามาช่วยเชส ฟาเบรกัส

เชส ฟาเบรกัส

เชส ฟาเบรกัส

หากพูดถึงทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือโฆเซ่ มูริญโญ่เกี่ยวกับผลงานในลีกของฤดูกาลนี้นั้น คงต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอนว่า ปีนี้เชลซีของมูริญโญ่ทำผลงานได้ในลีกได้ค่อนข้างดีจริงๆ และถือว่าโดยรวมแล้วยังทำกันได้อย่างเยี่ยมยอดอีกด้วย เพราะจะเห็นได้ว่า เชลซีของมูริญโญ่นั้นสามารถครองตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนได้นานเลยทีเดียว เรียกได้ว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกจนถึงครึ่งฤดูกาลหลัง พวกเขาก็ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และคงไม่อาจจะปฏิเสธได้เช่นเดียวกันว่า หากหลังนี้สำหรับโปรแกรมการแข่งขันที่ยังเหลืออีกเพียงไม่กี่นัด หากเชลซียังสามารถรักษาความสม่ำเสมอของผลงานได้เหมือนที่ผ่านมา พวกเขาน่าจะไปถึงแชมป์ลีกแบบไม่น่ามีปัญหาแน่นอน

แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องบอกว่า แม้จากผลงานที่ผ่านมาของเชลซีนั้น โดยรวมพวกเขาจะถือว่าทำได้ดีและยอดเยี่ยมก็ตามสำหรับในฤดูกาลนี้ แต่ก็ต้องบอกว่า เชลซีในปัจจุบันนั้นยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบเท่าไหร่นัก จริงอยู่ที่ผลงานในลีกโดยรวม ฤดูกาลนี้เชลซีจะทำได้ดีก็ตาม แต่ทว่าเชลซีเองก็ยังพลาดออกมาให้เห็นบ่อยๆเหมือนกัน ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างยาวนานนั้นก็คงเพราะ หลายๆทีมพลาดบ่อยกว่าพวกเขาด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่า เชลซีในตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นตัวยืนยันได้เป็นอย่างดีก็คือ ผลงานในรายการยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนแล้วว่า เชลซียังไม่สมบูรณ์แบบพอ แถมในช่วงหลังๆนั้นจะเห็นได้ว่า ฟอร์มของเชลซีในลีกเองก็เริ่มแผ่วลงอย่างชัดเจนด้วย เลยทำให้คิดว่า ฤดูกาลหน้านั้นเชลซีควรเสริมทัพเพิ่มด้วยการหานักเตะใหม่ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์เข้ามาเพิ่มอีกซักคน

สำหรับเหตุผลก็เพราะว่า ในช่วงหลังๆที่เชลซีเริ่มฟอร์มแผ่วลงนั้นก็เพราะว่า กลางของเชลซีทำเกมรุกกันไม่ค่อยได้เลย นั่นก็เพราะด้วยช่วงหลังๆนักเตะคนสำคัญอย่างเจ้า เชส ฟาเบรกัสนั้น ฟอร์มดรอปลงไป ทำให้เชลซีขาดการปั้นเกมรุกจากแดนกลางไปทันที เพราะในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกนั้น เรียกได้ว่า ส่วนใหญ่การปั้นเกมในแดนกลางของเชลซีนั้น มาจากเจ้าเชส ฟาเบรกัสแทบทั้งสิ้น แถมกองหน้าของเชลซีก็สามารถยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย เพราะว่าเชส ฟาเบรกัสสามารถผ่านบอลสวยๆหลายครั้งเลย ทีนี้พอช่วงหลังเชส ฟาเบรกัสฟอร์มดรอปลงไป ก็เลยส่งผลต่อฟอร์มโดยรวมของทีมไปด้วย ส่วนนักเตะคนอื่นๆในแดนกลางนั้น ก็ไม่มีใครที่ปั้นเกมรุกได้ดีเท่ากับเชส ฟาเบรกัสเลย ก็เลยทำให้คิดว่าฤดูกาลหน้านั้น เชลซีควรจะหานักเตะใหม่ที่ตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ที่เด่นในเรื่องการปั้นเกมรุกและเด่นเรื่องการผ่านบอลเข้ามาเพิ่มอีกซักคน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเชส ฟาเบรกัส ซึ่งเชื่อว่าถ้าได้เข้ามาเพิ่มอีกซักคน ฤดูกาลหน้านั้นเชลซีจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นแน่นอน และจะส่งผลให้ผลงานของพวกเขาดีขึ้นกว่าฤดูกาลนี้อีกด้วยนั่นเอง.

โวล์ฟบวร์ก ถ้าฤดูกาลหน้า พวกเขาทำให้แนวรับเสียประตูน้อยลงได้ โอกาสในการลุ้นแชมป์ของพวกเขาจะมีมากขึ้น!

โวล์ฟบวร์ก

โวล์ฟบวร์ก

หลังจากศึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้เปิดฤดูกาลใหม่จนเข้าสู่เส้นทางของครึ่งฤดูกาลหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ถึงตรงนี้จากผลงานที่ผ่านมานั้นถ้าเกิดว่าถามว่าทีมใดในพรีเมียร์ลีก ที่ถือว่าทำผลงานได้อย่างค่อนข้างเซอร์ไพรส์และทำผลงานได้ดีเกินคาดพอสมควรเลยนั้น ทีมดังกล่าวก็คงต้องยกให้กับทีมเซ้าท์แธมป์ตันนั่นเอง เพราะจากผลงานที่ผ่านมาของพวกเขาจนถึงตอนนี้ ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่า ทีมเซ้าท์แธมป์ตันของโรนัลด์ คูมันนั้น ทำผลงานได้อย่างดีเกินคาดจริงๆ เพราะจะเห็นได้ว่า เซ้าท์แธมป์ตันนั้นสามารถเกาะกลุ่มในโซนหัวตาราง หรือว่าโซนท็อปโฟร์ได้อย่างเหนียวแน่นนั่นเอง

และจากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือ ทีมที่ถือว่าทำผลงานได้เกิดความคาดหมายสำหรับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่สำหรับบทความนี้เราจะมาดูในส่วนของทางด้านลีกของเยอรมันอย่างบุนเดสลีกากันบ้าง เพราะสำหรับฤดูกาลนี้ก็ต้องบอกว่า บุนเดสลีกานั้นก็มีทีมที่ถือว่าทำผลงานได้อย่างค่อนข้างเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นเหมือนกัน และสำหรับทีมที่ว่าก็คือ ทีมโวล์ฟบวร์ก รองจ่าฝูงของตารางคะแนนในตอนนี้นั่นเอง ซึ่งไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่า สำหรับปีนี้ทีมโวล์ฟบวร์กนั้น ทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมายพอสมควรจริงๆ และไม่คิดว่าจะทำได้ดีขนาดนี้อีกด้วย เพราะจะเห็นได้ว่า จากก่อนหน้านี้หลังจากการคว้าแชมป์ในรายการนี้ครั้งล่าสุดไป พวกเขาก็ทำผลงานตกลงไปพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆกลางตารางเป็นซะส่วนใหญ่ แต่ทว่าพอมาปีนี้ พวกเขากลับก้าวขึ้นมาทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอดอีกครั้ง ด้วยการพาตัวเองก้าวขึ้นรั้งตำแหน่งในโซนหัวตารางได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังมีลุ้นแชมป์อีกด้วย แม้ว่าโอกาสจะถือว่าไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอมีโอกาสอยู่นั่นเอง

ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วสำหรับฤดูกาลนี้ ทีมโวล์ฟบวร์กนั้นจะสามารถทำผลงานในลีกสำหรับเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ดีแค่ไหน เพราะแม้จะเป็นทีมรองจ่าฝูงในตอนนี้อยู่ แต่พวกเขาก็โดนจ่าฝูงอย่างบาเยิร์นมิวนิคทิ้งคะแนนห่างพอสมควรเหมือนกัน ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า พวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหนสำหรับเส้นทางการลุ้นแชมป์ที่เหลือของฤดูกาลนี้ แต่ถ้าว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาเกิดทำเต็มที่แต่สามารถคว้าได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ในปีนี้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จระดับนึงแล้ว แต่คิดว่าสำหรับฤดูกาลหน้านั้นถ้าพวกเขายังสามารถโชว์ฟอร์มได้แบบนี้อีกครั้ง บอกได้เลยว่ามีโอกาสลุ้นแย่งแชมป์กับบาเยิร์นมิวนิคแบบสูสีแน่นอน แต่พวกเขาต้องเริ่มจากการปรับปรุงในส่วนของแนวรับของทีม ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าหากดูจากสถิติที่ผ่านมานั้น สิ่งที่พวกเขายังทำได้ไม่ดีและเป็นรองบาเยิร์นก็คือ เรื่องของเกมรับที่ยังเสียประตูง่ายเกิน แต่ในส่วนของเกมรุกนั้น ถือว่าทำได้อย่างเยี่ยมยอดแล้ว ชนิดที่ว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าบาเยิร์นเท่าไหร่นัก เลยทำให้คิดว่าหากฤดูกาลนี้ พวกเขาไม่สามารถไปถึงแชมป์ได้สำเร็จก็ไม่เป็นไร แล้วไปปรับปรุงทีมใหม่ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของแนวรับ ซึ่งเชื่อว่าถ้าฤดูกาลหน้าแนวรับทำได้ดีกว่าฤดูกาลนี้ โอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเขานั้นจะมีมากขึ้นแน่นอนนั่นเอง.

เคิร์ท ซูม่า ถ้าได้รับการลงสนามต่อเนื่องมากขึ้น เขาจะก้าวเป็นกำลังหลักให้กับเชลซีในอนาคตได้แน่นอน!

เคิร์ท ซูม่า

เคิร์ท ซูม่า

หากพูดถึงทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือโฆเซ่ มูริญโญ่แล้ว เชื่อว่าเหลือเกินว่าหากถามว่าเชลซีเป็นทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องอะไรมากที่สุดนั้น เสียงส่วนใหญ่คงน่าจะตอบกันเป็นเสียงเดียวแน่นอนว่าเชลซีเป็นทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องของเกมรับที่เหนียวแน่นนั่นเอง โดยเฉพาะยิ่งอยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซืออย่าง โฆเซ่ มูริญโญ่แล้ว ต้องบอกว่าเชลซียิ่งกลายเป็นทีมที่มีเกมรับได้เหนียวแน่นสุดๆ เพราะด้วยสไตล์การคุมทีมของมูริญโญ่นั้น เขามักจะเน้นให้ทีมมีเกมรับที่เหนียวแน่นเอาไว้ก่อนนั่นเอง

และด้วยเหตุนี้นั่นเองทำให้สำหรับในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงในส่วนของแผงหลังของเชลซีกันหน่อย เพราะแน่นอนว่าการที่ทีมจะมีเกมรับที่เหนียวแน่นได้นั้น ก็จะต้องมีนักเตะแผงหลังที่ฝีเท้าดีและทำผลงานกันได้ดีด้วย และสำหรับสิ่งที่จะพูดถึงกันในบทความนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเตะที่จะเป็นกำลังหลักให้กับเชลซีในอนาคตสำหรับในแผงหลัง ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับนักเตะที่จะพูดถึงกันในบทความนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือ กองหลังดาวรุ่งตัวเก่งอย่างเจ้า เคิร์ท ซูม่า นั่นเอง

สำหรับเหตุผลว่าทำไมในบทความนี้ถึงอยากพูดถึงเจ้าปราการหลังดาวรุ่งคนนี้เป็นพิเศษ นั่นก็เพราะว่า หลังจากที่ได้ดูและติดตามดูฟอร์มที่ผ่านมาของเจ้า เคิร์ท ซูม่า กับเชลซีในฤดูกาลนี้แล้วต้องบอกว่า ฟอร์มและผลงานของเจ้าดาวรุ่งคนนี้ถือว่าทำได้อย่างไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะจากฟอร์มในหลายนัดที่ผ่านมาที่เจ้าตัวได้รับโอกาสจากโฆเซ่ มูริญโญ่ให้ลงทำหน้าที่เป็นตัวจริงให้กับทีมนั้น ต้องบอกว่า เจ้าเคิร์ท ซูม่า ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังจริงๆ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเลย เป็นกองหลังที่จัดว่าครบเครื่องคนนึงเลย มีความแข็งแกร่ง มีความเร็ว แถมยังเข้าสกัดบอลได้อย่างแม่นยำอีกด้วย จึงคิดว่าในอนาคตนั้น เจ้าเคิร์ท ซูม่า น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังให้กับเชลซีได้แน่นอน เพียงแต่ว่ามูริญโญ่ควรมอบโอกาสในการลงสนามให้กับเขามากขึ้น นั่นก็เพราะว่า ในตอนนี้จากที่ดูฟอร์มของเจ้า เคิร์ท ซูม่า ที่ผ่านมาแล้ว ดูเหมือนสิ่งเดียวที่เขายังขาดอยู่ก็คือ เรื่องประสบการณ์นั่นเอง

ดังนั้นเลยคิดว่า หากหลังจากนี้เขาได้รับโอกาสในการลงสนามมากขึ้น อนาคตเขาจะกลายเป็นกำลังหลักให้กับเชลซีได้อย่างแน่นอน และเชลซีเองก็ไม่ควรปล่อยออกไปเด็ดขาด เพราะนักเตะฝีเท้าดีๆที่จัดว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ครบเครื่องและอายุน้อยแบบนี้ มันไม่ได้หากันได้ง่าย ซึ่งหวังว่า หลังจากนี้มูริญโญ่นั้นเขาจะปั้นให้เจ้า เคิร์ท ซูม่า เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ ดังเช่นที่เขาเคยทำแล้วกับเจ้า ราฟาเอล วาราน กองหลังดาวรุ่งตัวเก่งของรีลมาดริดนั่นเอง.