ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนีได้เดินทางผ่านรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันในกลุ่ม อี และ เอฟ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้เราได้ทีมที่ผ่านเข้าไปลุยต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้ายครบแล้ว วันนี้ทาง sbobet 888 จะพามาสรุปผลการแข่งขันของแต่ล่ะกลุ่ม
เยอรมนี เจ้าภาพและแชมป์กลุ่ม เอ เข้ารอบตามคาดหลังจากชนะสกอตแลนด์ 5-1, ชนะฮังการี 2-0, และเสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ด้วยการทำประตูช่วงทดเจ็บของนิคลาส ฟูลล์ครูก ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ รองแชมป์กลุ่ม เอ ก็สร้างผลงานที่ดีเช่นกัน โดยชนะฮังการี 3-1, เสมอสกอตแลนด์ 1-1 และเสมอเยอรมนี 1-1
สเปน แชมป์กลุ่ม บี ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมโดยชนะโครเอเชีย 3-0, ชนะอิตาลี 1-0 และชนะแอลเบเนีย 1-0 โดยไม่เสียประตูเลย ส่วนอิตาลี รองแชมป์กลุ่ม บี ผ่านเข้ารอบด้วยการชนะ แอลเบเนีย 2-1, แพ้สเปน 0-1 และเสมอโครเอเชีย 1-1
อังกฤษ แชมป์กลุ่ม ซี เข้ารอบแม้จะไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ก็ยังสามารถผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มด้วยการชนะเซอร์เบีย 1-0, เสมอเดนมาร์ก 1-1 และเสมอสโลวีเนีย 0-0 ส่วนเดนมาร์ก รองแชมป์กลุ่ม ซี เข้ารอบแม้จะไม่ชนะใครเลย โดยเสมอสโลวีเนีย 1-1, เสมออังกฤษ 1-1 และเสมอเซอร์เบีย 0-0 ขณะที่สโลวีเนีย อันดับสามกลุ่ม ซี ก็สามารถผ่านเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีที่สุด
ออสเตรีย แชมป์กลุ่ม ดี ทำผลงานได้เยี่ยมชนิดหักปากกาเซียน โดยชนะโปแลนด์ 3-1 และชนะเนเธอร์แลนด์ 3-2 หลังจากแพ้ฝรั่งเศส 0-1 ในเกมแรก ส่วนฝรั่งเศส รองแชมป์กลุ่ม ดี เข้ารอบแม้ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยชนะออสเตรีย 1-0 เสมอเนเธอร์แลนด์ 0-0 และเสมอโปแลนด์ 1-1 ด้านเนเธอร์แลนด์ อันดับสามกลุ่ม ดี ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการมี 4 แต้ม
โรมาเนีย แชมป์กลุ่ม อี ผ่านเข้ารอบด้วยการมีสถิติดีสุดในเรื่องประตูได้-เสีย โดยชนะยูเครน 3-0, แพ้เบลเยียม 0-2 และเสมอสโลวาเกีย 1-1 ส่วนเบลเยียม รองแชมป์กลุ่ม อี ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการชนะโรมาเนีย 2-0, เสมอยูเครน 0-0 และแพ้สโลวาเกีย 0-1 ด้านสโลวาเกีย อันดับสามกลุ่ม อี ก็สามารถผ่านเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีที่สุด
โปรตุเกส แชมป์กลุ่ม เอฟ เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแม้จะแพ้จอร์เจียในนัดสุดท้าย โดยชนะเช็ก 2-1 และชนะตุรกี 3-0 ส่วนตุรกี รองแชมป์กลุ่ม เอฟ ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการชนะจอร์เจีย 3-1 และชนะเช็ก 2-1 ด้านจอร์เจีย อันดับสามกลุ่ม เอฟ ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการชนะโปรตุเกส 2-0 และผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรก