เธียร์รี่ อองรี กุนซือมือใหม่วัย 41 ปี ตัดสินใจอำลาตำแหน่งผู้ช่วยกุนซือทีมชาติ เบลเยี่ยม เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อออกมาเผชิญกับความท้าทายในยุทธจักรลูกหนัง
โดยได้เริ่มต้นเป็นกุนซือให้กับสโมสรฟุตบอล โมนาโก ต้นสังกัดแรกในชีวิตของเขาที่เป็นกุนซือเต็มตัว จากผลงานการคุมทีมในห้าเกมแรก แพ้สามนัด เสมอสองนัด
ถือว่ากุนซือวัย 41 ปีผู้นี้ยังทำผลงานคุมทีมได้ไม่ดีในตอนนี้
ทำ โมนาโก มีผลงานย่ำแย่กว่าเดิม
โมนาโก เปิดซีซั่น 12 เกมแรกแพ้ไปแล้ว 8 เกมภายใต้การทำทีมของ เลโอนาร์โด ฮาร์ดิม กุนซือชาวโปรตุเกสที่ถูกเด้งออกจากเก้าอี้ไปในที่สุด จากเหตุการณ์ดังกล่าว
พวกเขาเลยฝากความหวังไว้กับ อองรี ที่เข้ามาบริหารทีมต่อ แต่อย่างไรก็ตาม โมนาโก เหมือนจะยังคงดิ่งลงเหวต่อเนื่องและยังพ่ายแพ้ในเกมนัดล่าสุดให้กับ คลับ บรูกก์ ทีมจากเบลเยี่ยมอีกด้วยสกอร์แพ้ย่อยยับ 4-0
นับเป็นการแพ้ในเกมเหย้า ถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ขณะที่แฟนบอลเองก็ผิดหวังกับศักยภาพของทีมในเกมกับ คลับ บรูกก์ พวกเขาตะโกนต่อว่าเหล่านักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ช
ที่เดินมาขอบคุณแฟนบอลหลังจบเกม ทั้งยังมีการขว้างปาพลุไฟลงมาในสนามอีกด้วย
แรงกดดันที่ถาโถม
เธียร์รี่ อองรี เริ่มแสดงให้เห็นถึงความกดดันออกมาอย่างชัดเจน โดยเขาออกมาตำหนิลูกทีมของตัวเองผ่านสื่อว่า “เมื่อลูกทีมคุณไม่มีความตั้งใจจะเล่น งานก็ยาก อย่างไรก็ตามพวกเราต้องเอาความมั่นใจกลับคืนมาให้ได้”
“ผมผิดหวังกับท่าทีของพวกเราหลังจากประตูตามหลัง เราเริ่มต้นได้ดีแต่พอประตูตามหลังเราเหมือนหยุดเล่น มันก็น่ากังวลนะ”
สถิติสโมสรที่แย่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในปี 1968-69 พวกเขาพ่ายแพ้ 15 นัดรวด ส่วนตอนนี้ โมนาโก อยู่รองบ๊วยของตารางคะแนน ลีกเอิง มีแค่ 7 คะแนนจาก 12 เกม ดีกว่า แก็งก็อง ทีมอันดับสุดท้ายแค่ประตูได้เสีย
ต่างกันลิบลับกับ ปารีส แซ็งต์ แชร์กแมง ที่ตอนนี้ชนะรวด 12 นัดในลีก นับเป็นการเปิดตัวดีที่สุดในประวัติศาสตร์ท็อปไฟว์ลีกยุโรป