เมมฟิส เดปาย (Memphis Depay) กองหน้าชาวดัตช์ของสโมสร คอรินเธียนส์ (Corinthians) ได้แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยต่อการตัดสินใจล่าสุดของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่ออกกฎห้ามนักฟุตบอลยืนบนลูกฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน กฎใหม่นี้ระบุว่านักฟุตบอลที่ยืนบนลูกด้วยเท้าทั้งสองข้างจะถูกลงโทษด้วยใบเหลืองทันที และทีมคู่แข่งจะได้รับฟรีคิกทางอ้อม การประกาศนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่นหลายคนรวมถึงเดปาย ซึ่งมองว่าเป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการเล่นฟุตบอล เหตุการณ์ที่นำไปสู่การออกกฎครั้งนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เปาลิสตา เอ1 (Paulista A1) ระหว่าง คอรินเธียนส์ และ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 เมื่อ เดปาย (Depay) ทำท่ายืนบนลูกฟุตบอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บใกล้ธงมุม หลังจากที่ทำท่าหลอกว่าจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลีลาดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่น ปาล์มไมรัส (Palmeiras) อย่างมาก จนนำไปสู่การปะทะกันระหว่างทั้งสองทีม tek789 ความวุ่นวายดังกล่าวส่งผลให้ มาร์เซโล ลอมบา (Marcelo Lomba) ผู้รักษาประตูสำรองของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) และ โฮเซ่ มาร์ติเนซ (Jose Martinez) กองกลางของ คอรินเธียนส์ (Corinthians) ถูกไล่ออกจากสนามหลังจากที่ผู้ตัดสินได้ทบทวนสถานการณ์ผ่านระบบ VAR เป็นเวลานาน การทะเลาะวิวาทครั้งนี้ทำให้มีการเพิ่มเวลาทดเวลาบาดเจ็บถึง 18 นาที ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างมากสำหรับการแข่งขันฟุตบอล
สมาคมฟุตบอลบราซิล ร่อนจดหมายชี้ สกิลยืนบนลูกบอล ถือเป็นการยั่วยุและไม่เคารพคู่แข่ง
สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ได้ออกจดหมายชี้แจงไปยังสโมสรต่างๆ โดยระบุว่าการยืนบนลูกฟุตบอลเป็น “การยั่วยุคู่แข่งและแสดงความไม่เคารพต่อเกมการแข่งขัน” จึงจำเป็นต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต เดปาย (Depay) วัย 31 ปี อดีตกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายนี้และได้แสดงความคิดเห็นผ่านบัญชี เอ็กซ์ (X) ของเขา โดยระบุว่า “ผมไปเล่นที่ บราซิล เพื่อสัมผัสประสบการณ์ โฆโก โบนิโต้ (Jogo Bonito) [เกมที่สวยงาม] ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ สมาคมฟุตบอลบราซิล tek789 ประกาศเมื่อวานนี้ว่าไม่มีนักเตะคนใดสามารถยืนบนลูกฟุตบอลได้ หรือนักเตะจะได้รับใบเหลือง” เดปาย (Depay) ยังเน้นย้ำว่าแม้ท่าทางดังกล่าวไม่ใช่ “ปัจจัยสำคัญในฟุตบอล” แต่เขา “ไม่เห็นปัญหา” กับการแสดงทักษะในลักษณะนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า บราซิล เป็นประเทศที่มี “ความสามารถมากมาย” และ “ความสุขและความหลงใหลในการแสดงออกของเราในสนามไม่ควรถูกจำกัด” นักเตะชาวดัตช์ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับคณะกรรมการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ว่า “ใครกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศฟุตบอลที่สวยงามนี้?” พร้อมเรียกร้องให้มุ่งเน้นที่ “กฎที่สามารถพัฒนากีฬาและมุ่งเน้นที่ด้านธุรกิจของฟุตบอล สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสโมสร แฟนๆ และนักเตะ แทนที่จะเป็นประกาศที่ไร้สาระเหล่านี้” การสนับสนุนจากนักเตะคนอื่นและผลกระทบต่อวัฒนธรรมฟุตบอลบราซิล ความคิดเห็นของ เดปาย (Depay) ได้รับการสนับสนุนจากนักเตะดังคนอื่นๆ รวมถึง เนย์มาร์ (Neymar) ซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิลที่ปัจจุบันเล่นให้กับ ซานโตส (Santos) หลังจากกลับมาจาก อัล-ฮิลาล (Al-Hilal) ในซาอุดีอาระเบีย เนย์มาร์ (Neymar) ได้แสดงความไม่พอใจผ่านบัญชี อินสตาแกรม (Instagram) ของเขา โดยระบุอย่างสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “ฟุตบอลกำลังน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ” ความขัดแย้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างวัฒนธรรมฟุตบอลดั้งเดิมของ บราซิล ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ ทักษะส่วนบุคคล และความสนุกสนาน กับแนวทางการบริหารจัดการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่มุ่งเน้นความมีระเบียบวินัยและการควบคุมเพื่อลดความขัดแย้งในสนาม บราซิล เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านฟุตบอลที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้น โดยมีตำนานอย่าง เปเล่ (Pele), การ์รินชา (Garrincha), โรนัลดินโญ (Ronaldinho) และ เนย์มาร์ (Neymar) ที่มีชื่อเสียงในการแสดงทักษะที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกตื่นตาตื่นใจ การที่ผู้เล่นสามารถแสดงความสามารถพิเศษในสนามถือเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ฟุตบอลของ บราซิล ที่เรียกว่า “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) หรือ “เกมที่สวยงาม” มุมมองที่แตกต่างและความท้าทายในการรักษาสมดุล อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายที่สนับสนุนการตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) โดยมองว่าการแสดงทักษะบางอย่างอาจนำไปสู่ความตึงเครียดและความรุนแรงในสนาม พวกเขาเชื่อว่าท่าทางที่อาจถูกมองว่าเป็นการเยาะเย้ยคู่แข่งควรถูกจำกัดเพื่อรักษาน้ำใจนักกีฬาและความเคารพซึ่งกันและกัน อเบล เฟอร์เรรา (Abel Ferreira) โค้ชของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) ที่พ่ายแพ้ในเกมนั้น แสดงความไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของ เดปาย (Depay) โดยกล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “มีความแตกต่างระหว่างความสร้างสรรค์กับการไม่เคารพ ฟุตบอลเป็นเรื่องของการแสดงความสามารถ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของความเคารพต่อคู่แข่ง” ความท้าทายสำหรับวงการฟุตบอลบราซิลและทั่วโลกคือการรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการแสดงทักษะกับการรักษาความเป็นมืออาชีพและน้ำใจนักกีฬา ในขณะที่มีผู้เล่นหลายคนต่อต้านการห้ามใช้ทักษะที่สร้างสรรค์ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าควรมีขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกมกลายเป็นการเผชิญหน้าที่รุนแรง
ผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลบราซิล หลังมีการออกมาแบน สกิลฟุตบอลเช่นนี้
การตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลในประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนาผู้เล่นรุ่นใหม่ที่อาจรู้สึกว่าถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ นักวิจารณ์หลายคนกังวลว่าการบังคับใช้กฎที่เข้มงวดเกินไปอาจทำลายเอกลักษณ์ของฟุตบอลบราซิลที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ในขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ยืนยันว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการส่งเสริมการเล่นที่ยุติธรรมและเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การจำกัดความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาเชื่อว่าการมีกฎที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความขัดแย้งและรักษาภาพลักษณ์ของลีกบราซิล ความขัดแย้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่กว้างขึ้นในวงการฟุตบอลทั่วโลก ที่พยายามรักษาสมดุลระหว่างความบันเทิงกับความเป็นมืออาชีพ ระหว่างการแสดงออกส่วนบุคคลกับการเคารพต่อคู่แข่ง และระหว่างประเพณีกับความทันสมัย ในขณะที่การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป แฟนฟุตบอลทั่วโลกจับตามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อลีลาการเล่นของนักฟุตบอลบราซิลในระยะยาวอย่างไร และวัฒนธรรม “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) ที่ทำให้ บราซิล เป็นที่รักของแฟนฟุตบอลทั่วโลกจะยังคงอยู่หรือจะค่อยๆ เลือนหายไปภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น