Tag Archives: สเปน

จับตาให้ดี! 3 จุดอันตราย สเปน ปะทะ ฝรั่งเศส ศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ

สุดยอดเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง สเปน (Spain) พบ ฝรั่งเศส (France) เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 2024 ล่าสุด ถือเป็นไฮไลท์ของทัวร์นาเมนต์บนแผ่นดินเยอรมนี เพราะผู้ชนะในคู่นี้มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นมาชูโทรฟี่ “อองรี เดอ โลเนย์”

การดวลกันระหว่าง ทัพ “กระทิงดุ” เจ้าของแชมป์ยูโร 3 สมัย กับ “ตราไก่” แชมป์ยูโร 2 สมัย คาดว่าจะเป็นเกมที่สนุกสูสี เพราะทั้งสองทีมอุดมไปด้วยขุมกำลังชั้นยอด อย่างไรก็ตาม สเปน ดูเหมือนจะได้เปรียบเล็กน้อยในเรื่องเกมรุกที่มีความรวดเร็วว่องไว และเฉียบคม ขณะที่เกมรับก็แข็งแกร่ง เสียแค่ 2 ประตูให้กับ จอร์เจีย (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) และ เยอรมนี (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)ฟุตบอลยูโร 2024 ล่าสุด

ทางฝรั่งเศสของกุนซือดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ มีการเตรียมตัวมาอย่างดี แม้พวกเขาจะทำได้เพียง 3 ประตูนับตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ โดยไม่มีจังหวะโอเพ่นเพลย์เลย ทั้ง 3 ลูกมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง 2 หน และอีก 1 ประตูมาจากลูกจุดโทษของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้

การดวลกันในครั้งนี้ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ และเกมนี้อาจจะตัดสินกันใน 3 จุดสำคัญ ซึ่งหากทีมใดทำได้ดีกว่า มีโอกาสสูงที่จะได้เข้าไปเล่นในรอบชิงที่สนามโอลิมเปีย สตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมนี้

1. ก็องเต้ vs โรดรี้

โรดรี้ (Rodri) เป็นนักเตะที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับทีมชาติสเปน ไม่ต่างอะไรกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (N’Golo Kanté) ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เดอะ แบก” ของทัพ “เลส์ เบลอส์” มาตลอดในช่วงหลายปี โดยเฉพาะในยูโร 2024 นี้ โรดรี้จะเป็นตัวคุมจังหวะการเล่น และเชื่อมเกมในแดนกลางให้ทัพ “กระทิงดุ” เขายังมีทีเด็ดในเรื่องการยิงประตูด้วย

ด้านก็องเต้ แม้อายุจะปาเข้าไป 33 ปีแล้วแต่ยังเต็มไปด้วยพละกำลัง สามารถวิ่งได้ทั่วสนาม และพร้อมทุ่มเทในการตัดเกมทุกจังหวะ ซึ่งทำให้เขามีส่วนสำคัญกับฝรั่งเศสในช่วงที่ผ่านมา

2. ยามาล vs แอร็งน็องเดซ

ยามาล (Yamal) สตาร์วัย 16 ปีจากบาร์เซโลน่า กำลังเฉิดฉายในการลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติครั้งแรก โดยสร้างสถิติเป็นพ่อค้าแข้งอายุน้อยที่สุดในยูโร 2024 ที่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ยามาลโชว์ฟอร์มได้เก่งเกินวัยโดยช่วยแอสซิสต์ให้สเปนไปแล้ว 3 ครั้ง

ยามาลจะต้องเผชิญหน้ากับ เตโอ แอร็งน็องเดซ (Lucas Hernandez) หนึ่งในแบ็กซ้ายที่เก่งที่สุดในโลก แม้ว่าฝรั่งเศสจะพบกับความยากลำบากในการเล่นเกมรุกตลอด 5 แมตช์ที่ผ่านมา แต่ฟูลแบ็กจากเอซี มิลาน มักจะดันขึ้นไปเล่นเกมรุกและทำให้ฝรั่งเศสสร้างโอกาสได้หลายครั้ง

3. เอ็มบัปเป้ vs แนวรับสเปน

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ด้วยศักยภาพของเขายังคงเป็นผู้เล่นที่อันตรายที่สุดที่บรรดาแนวรับของสเปนห้ามประมาท การ์บาฆาลติดโทษแบนจากเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้สเปนอาจต้องหาผู้เล่นที่สามารถรับมือกับเอ็มบัปเป้ได้ตลอดทั้งเกม ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์ที่จะโดนปั่นป่วนได้

การเลือกผู้เล่นของกุนซือหลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ทีมรับมือกับเอ็มบัปเป้ได้ โดยคาดว่า นาบาส คงได้เล่นแทนการ์บาฆาล ขณะที่นาโช่ เฟร์นานเดซ น่าจะมาแทน โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์ ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก

การดวลกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ สเปนและฝรั่งเศส จะเป็นการต่อสู้ที่ยากเย็นและเข้มข้น ทั้งในด้านเกมรุกและเกมรับ ความสามารถและความเฉียบขาดในแต่ละจุดสำคัญจะตัดสินว่าใครจะเป็นฝ่ายเข้าชิงและมีโอกาสคว้าถ้วย ฟุตบอลยูโร 2024 ล่าสุด ไปครอง

ซูเปอร์คอมฟันธงรอบน็อกเอาต์16ทีม-ใครมีโอกาสถึงแชมป์ ยูโร 2024

ซูเปอร์คอมฟันธงรอบน็อกเอาต์16ทีม-ใครมีโอกาสถึงแชมป์ ยูโร 2024

ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว บริษัท ออปตา ผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้นำซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาวิเคราะห์โอกาสของแต่ละทีมในการเป็นแชมป์ ซึ่งผลการวิเคราะห์นี้ได้สร้างความสนใจและตื่นเต้นให้กับแฟนบอลทั่วโลก

ผลวิเคราะห์จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของออปตาได้แสดงให้เห็นว่า ทีมชาติอังกฤษมีโอกาสดีที่สุดที่จะเป็นแชมป์ ยูโร 2024 ด้วยความเป็นทีมที่มีสถิติที่ดีในรอบคัดเลือกและความสามารถของนักเตะที่ยอดเยี่ยม

ผลวิเคราะห์การแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย(โดยคำนวนจาก ผลบอล ยูโร 2024 รอบคัดเลือก

สวิตเซอร์แลนด์ พบ อิตาลี

สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 46.92%
อิตาลี ชนะ 53.08%
เยอรมนี พบ เดนมาร์ก

เยอรมนี ชนะ 69.58%
เดนมาร์ก ชนะ 30.42%
อังกฤษ พบ สโลวาเกีย

อังกฤษ ชนะ 81.80%
สโลวาเกีย ชนะ 18.20%
สเปน พบ จอร์เจีย

สเปน ชนะ 82.44%
จอร์เจีย ชนะ 17.66%
ฝรั่งเศส พบ เบลเยียม

ฝรั่งเศส ชนะ 68.27%
เบลเยียม ชนะ 31.73%
โปรตุเกส พบ สโลวีเนีย

โปรตุเกส ชนะ 75.72%
สโลวีเนีย ชนะ 24.28%
โรมาเนีย พบ เนเธอร์แลนด์

โรมาเนีย ชนะ 32.46%
เนเธอร์แลนด์ ชนะ 67.54%
ออสเตรีย พบ ตุรกี

ออสเตรีย ชนะ 59.93%
ตุรกี ชนะ 40.07%
โอกาสในการเป็นแชมป์ ยูโร 2024

อังกฤษ(England) 19.12%
เยอรมนี(Germany) 16.09%
สเปน(Spain) 15.41%
ฝรั่งเศส(France) 13.26%
โปรตุเกส(Portugal) 12.48%
เนเธอร์แลนด์(Netherlands) 6.73%
อิตาลี(Italy) 4.46%
ออสเตรีย(Austria) 3.64%
สวิตเซอร์แลนด์(Switzerland) 2.26%
เบลเยียม(Belgium) 2.09%
ตุรกี(Turkiye) 1.36%
เดนมาร์ก(Denmark) 1.24%
โรมาเนีย(Romania) 0.93%
สโลวาเกีย(Slovakia) 0.41%
สโลวีเนีย(Slovenia) 0.40%
จอร์เจีย(Georgia) 0.13%
จากการวิเคราะห์นี้ อังกฤษได้รับการยกย่องว่ามีโอกาสดีที่สุดในการเป็นแชมป์ ด้วยอัตรา 19.12% ตามมาด้วยเยอรมนีที่ 16.09% และสเปนที่ 15.41% ทีมที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสน้อยที่สุดในการเป็นแชมป์คือ จอร์เจีย ที่มีเพียง 0.13%

การวิเคราะห์จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สะท้อนถึงสถิติและผลงานของทีมในรอบคัดเลือก แต่ฟุตบอลยังเป็นกีฬาที่มีความไม่แน่นอนสูง และผลการแข่งขันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบนี้

การแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นการทดสอบความสามารถและความพร้อมของแต่ละทีม การวิเคราะห์จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นเพียงการประเมินความน่าจะเป็น แต่สุดท้ายแล้วผลการแข่งขันในสนามจะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริงว่าใครจะได้ครองแชมป์ ติดตามเราไว้เพื่อไม่พลาดอัพเดทข่าวสาร ผลบอล ยูโร 2024 รอบคัดเลือก และ ยูโร 2024 รอบน็อกเอาต์ อย่างใกล้ชิด

คอนเฟิร์ม 16 ทีมลุยรอบน็อกเอาต์ ยูโร 2024 ทีมใหญ่มาครบ, จอร์เจีย สร้างเซอร์ไพรส์!

คอนเฟิร์ม 16 ทีมลุยรอบน็อกเอาต์ ยูโร 2024 ทีมใหญ่มาครบ, จอร์เจีย สร้างเซอร์ไพรส์!

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนีได้เดินทางผ่านรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันในกลุ่ม อี และ เอฟ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้เราได้ทีมที่ผ่านเข้าไปลุยต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้ายครบแล้ว  วันนี้ทาง sbobet 888 จะพามาสรุปผลการแข่งขันของแต่ล่ะกลุ่ม

เยอรมนี เจ้าภาพและแชมป์กลุ่ม เอ เข้ารอบตามคาดหลังจากชนะสกอตแลนด์ 5-1, ชนะฮังการี 2-0, และเสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ด้วยการทำประตูช่วงทดเจ็บของนิคลาส ฟูลล์ครูก ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ รองแชมป์กลุ่ม เอ ก็สร้างผลงานที่ดีเช่นกัน โดยชนะฮังการี 3-1, เสมอสกอตแลนด์ 1-1 และเสมอเยอรมนี 1-1

สเปน แชมป์กลุ่ม บี ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมโดยชนะโครเอเชีย 3-0, ชนะอิตาลี 1-0 และชนะแอลเบเนีย 1-0 โดยไม่เสียประตูเลย ส่วนอิตาลี รองแชมป์กลุ่ม บี ผ่านเข้ารอบด้วยการชนะ แอลเบเนีย 2-1, แพ้สเปน 0-1 และเสมอโครเอเชีย 1-1

อังกฤษ แชมป์กลุ่ม ซี เข้ารอบแม้จะไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ก็ยังสามารถผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มด้วยการชนะเซอร์เบีย 1-0, เสมอเดนมาร์ก 1-1 และเสมอสโลวีเนีย 0-0 ส่วนเดนมาร์ก รองแชมป์กลุ่ม ซี เข้ารอบแม้จะไม่ชนะใครเลย โดยเสมอสโลวีเนีย 1-1, เสมออังกฤษ 1-1 และเสมอเซอร์เบีย 0-0 ขณะที่สโลวีเนีย อันดับสามกลุ่ม ซี ก็สามารถผ่านเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีที่สุด

ออสเตรีย แชมป์กลุ่ม ดี ทำผลงานได้เยี่ยมชนิดหักปากกาเซียน โดยชนะโปแลนด์ 3-1 และชนะเนเธอร์แลนด์ 3-2 หลังจากแพ้ฝรั่งเศส 0-1 ในเกมแรก ส่วนฝรั่งเศส รองแชมป์กลุ่ม ดี เข้ารอบแม้ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยชนะออสเตรีย 1-0 เสมอเนเธอร์แลนด์ 0-0 และเสมอโปแลนด์ 1-1 ด้านเนเธอร์แลนด์ อันดับสามกลุ่ม ดี ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการมี 4 แต้ม

โรมาเนีย แชมป์กลุ่ม อี ผ่านเข้ารอบด้วยการมีสถิติดีสุดในเรื่องประตูได้-เสีย โดยชนะยูเครน 3-0, แพ้เบลเยียม 0-2 และเสมอสโลวาเกีย 1-1 ส่วนเบลเยียม รองแชมป์กลุ่ม อี ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการชนะโรมาเนีย 2-0, เสมอยูเครน 0-0 และแพ้สโลวาเกีย 0-1 ด้านสโลวาเกีย อันดับสามกลุ่ม อี ก็สามารถผ่านเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีที่สุด

โปรตุเกส แชมป์กลุ่ม เอฟ เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแม้จะแพ้จอร์เจียในนัดสุดท้าย โดยชนะเช็ก 2-1 และชนะตุรกี 3-0 ส่วนตุรกี รองแชมป์กลุ่ม เอฟ ก็คว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการชนะจอร์เจีย 3-1 และชนะเช็ก 2-1 ด้านจอร์เจีย อันดับสามกลุ่ม เอฟ ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการชนะโปรตุเกส 2-0 และผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรก