ขายก่อนซื้อ นโยบายซื้อขายนักเตะที่เป็นเหมือนดาบสองคม

ขายก่อนซื้อ
การเข้ามาของโควิท 19 ทำให้เกือบทุกธุรกิจ ทุกองค์กรต้องทำการ “รัดเข็มขัด” เพื่อให้ธุรกิจฟุตบอลสามารถดำเนินต่อไปได้ แน่นอนว่านอกจากจะต้องลดขนาดองค์กรลงเพื่อลดค่าใช้จ่าย การทบทวนนโยบายการซื้อขายนักเตะกันใหม่ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วยเช่นกัน ตอนนี้จากสภาพเศรษฐกิจที่รายได้ไม่เพียงพอ นั่นทำให้หลายทีมอาจจะต้องใช้นโยบาบขายก่อนซื้อสำหรับนักเตะในซีซั่นหน้า ซึ่งการทำแบบนี้ก็เหมือนดาบสองคมที่ต้องชั่งใจให้ดี
ยังไม่รู้ว่าจะเข้ากับทีมหรือไม่
การใช้นโยบายขายก่อนซื้อ หมายถึงการขายนักเตะในทีมออกไปก่อน เพื่อเอาเงินทุนมาตั้งต้นเพื่อเอาไปซื้อนักเตะคนใหม่เข้ามาสู่ทีม ซึ่งการใช้วิธีนี้มองอีกมุมหนึ่งเป็นความเสี่ยงมากเพราะเราไม่รู้ว่านักเตะที่เราจะเอาเข้ามาสู่ทีมนั้น จะดีพอหรือดีกว่านักเตะที่เราขายออกไปหรือไม่ หลายครั้งนักเตะที่เราตัดใจขายออกไป พอจะซื้อคนใหม่เข้ามาปรากฏว่าคนใหม่เล่นไม่เข้ากับทีม ไม่เข้ากับระบบ ทำให้เราเหมือนเสียนักเตะไปสองคนพร้อมกัน พอจะขายออกก็ยากอีกเพราะเพิ่งซื้อมา หากปล่อยไปก็จะไม่มีนักเตะในตำแหน่งนั้น
ขายเพื่อซื้อ โดนโก่งราคา
การขายนักเตะไปก่อนเพื่อซื้อนั้น ทำให้การซื้อนักเตะทีมที่จะซื้ออยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบทันที กล่าวคือ พอเราขายไปแล้วเท่ากับว่า เรามีความต้องการสูงในดีลที่เรายื่นไป นั่นทำให้ทีมที่จะขายพร้อมจะโก่งราคาได้เลย เพราะคิดว่ายังไงคนซื้อก็ต้องซื้ออยู่แล้ว เนื่องจากขายนักเตะไป ทำให้แม้เราจะได้เงินทุนจากการขายนักเตะออกไปแต่พอโดนโก่งราคา ก็เท่ากับว่าเงินที่เราได้มานั้นแทบไม่มีค่าเลย กลับกันหากเราซื้อแต่ยังไม่ขายนักเตะออกไป นั่นเท่ากับว่าถ้าราคาไม่ดีเราก็ไม่ซื้อ หรือ หากซื้อใครไม่ได้เราก็ยังมีนักเตะในตำแหน่งนั้นอยู่นั้นเอง ดังนั้นทีมไหนจะใช้นโยบายขายก่อนซื้อต้องคิดให้ดี