มองไปที่สถานการณ์โลกตอนนี้กับโควิท 19 ถือว่าดีขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยในภาพรวมที่หลายประเทศมีการระบาดอย่างหนักก็ผ่อนคลายลงเยอะทั้งในตัวเลขผู้ติดเชื้อ ตัวเลขการรักษาตัว และ ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว จึงไม่แปลกที่รัฐบาลแต่ละประเทศจะมีการผ่อนปรนมาตรการบางอย่างเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจแย่ไปกว่านี้ อย่างไรก็ตามหนึ่งในเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อก็คือ การตัดจบลีคเอิง ลีคฟุตบอลใหญ่ของยุโรปจากประเทศฝรั่งเศสไป
ลีคเองตัดจบ จากการประกาศของรัฐบาล
ย้อนกลับไปช่วง 1 เดือนก่อน ตอนนั้นในยุโรปมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเยอะมาก จึงไม่แปลกที่หลายประเทศจะต้องล็อคดาวน์และงดจัดกิจกรรมที่จะทำให้มีคนมารวมกันมากๆออกไป ฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในนั้น ทางรัฐบาลเองตอนนั้นไม่มีทางเลือกต้องสั่งให้ปิดลีคเอิงไป ห้ามให้มีการจัดอีเวนต์กีฬาและอื่นๆอีกเลยจนถึงเดือน กันยายน ซึ่งผลของการตัดจบลีคเอิงในครั้งนี้ ทำให้พวกเค้าต้องเลือกการใช้วิธีการคิดคะแนนเฉลี่ยเพื่อจัดอันดับ ปรากฏว่าเป็นทาง ปารีส ได้แชมป์ลีคไปครองจากคะแนนเฉลี่ย 2.52 ตามมาด้วยทีมที่ได้โควตา UCL อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย, แรนส์ ส่วนทีมตกชั้นเป็นอาเมียงส์ และ ตูลูส ซึ่งผลวิธีการคิดจะใช้กับลีคตั้งแต่บนลงไปทั้งหมดทั้งการเลื่อนชั้นของลีคต่ำกว่าด้วย
การตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่
มองในเรื่องของการจัดการ ถือว่าเป็นการเคลียร์ทุกอย่างได้ลงตัวดีอาจจะเป็นเพราะว่าอันดับสำคัญอย่างแชมป์ กับตกชั้น มันค่อนข้างห่าง ชัดเจนแบบไม่ต้องคิดยังไงก็ต้องโดนแน่นอน แต่คำถามก็คือว่าการตัดจบไปก่อนคนอื่นนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือเปล่า เพราะต้องยอมรับว่าหากพวกเค้ายังไม่ปิดลีคไปตอนนี้พวกเค้าก็อาจจะวางแผนกลับมาเตะกันอีกครั้งก็ได้ ส่วนตัวมองว่าพวกเค้าทำผิดพลาด ตัดสินใจเร็วกันไปหน่อย พอคนอื่นไม่ปิดแต่ตัวเองปิด มันเลยเหมือนว่าลีคเอิง ขาดมาตรฐานไป จนดูเหมือนตัวตลกอย่างที่นักเตะบางคนออกมาให้สัมภาษณ์จริงๆ