Category Archives: ข่าวฟุตบอล

ข่าวฟุตบอล

กรีนวู้ด แตกต่างจาก แรชฟอร์ดตรงไหน

กรีนวู้ด แตกต่างจาก แรชฟอร์ดตรงไหน

เกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะสเปอร์สได้ ร์สไดเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะ3-1 เราเชื่อว่าคนหนึ่งที่มีผลอย่างมากในการแก้เกมของโซลชาก็คือ เมสัน กรีนวู้ด หรือน้องไม้เขียวของเรานั่นเอง กรีนวู้ด ได้ลงสนามแทนที่มาร์คัส แรชฟอร์ด ในตำแหน่งปีก การมาของเค้าต้องยอมรับว่าสร้างความแตกต่างในเกมที่น่าอึดอัดได้เป็นอย่างดี กรีนวู้ด แตกต่างจาก แรชฟอร์ดตรงไหน

 เปิดบอลเร็ว

ประตูขึ้นนำ 2-1 เป็นการเปิดบอลของ เมสัน กรีนวู้ด ที่เปิดบอลเร็วเข้าไปจากนั้น คาวานี่ ก็พุ่งโหม่งแบบตอปิโดบกเข้าไปเลย ซึ่งการเล่นแบบนี้ไม่มีหากเป็นแรชฟอร์ดยังอยู่ เราเดาได้เลยว่าถ้าเป็นแรช เค้าจะยึกยักแล้วเลี้ยงจนเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามา สุดท้าย คาวานี่ โหม่งไม่ได้ เพราะกองหลังสเปอร์สอย่างไดเออร์ น่าจะเข้าประกบแล้ว แต่พอเป็นกรีนวู้ด น้องกล้าที่จะเปิดบอลเร็วแบบได้เสีย ซึ่งบอลเร็วแบบนี้กองหน้าแบบคาวานี่ชอบเลย เนื่องจากเป็นจังหวะเผลอของกองหลังที่อาจจะวิ่งเข้ามาประกบไม่ทันทำให้เค้าสามารถวิ่งฉีกไปโหม่งได้แบบที่เห็นกันนั่นแหละ

 ฟิตกว่า

มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนยูไปแล้ว สังเกตได้จากหากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่แบน ยังไง แรช ก็ได้เป็นตัวเลือกแรกของโซลชาในการลงสนาม ซึ่งการได้ลงสนามทุกเกมมันดีจริง แต่มันทำให้นักเตะล้าอย่างเห็นได้ชัด เกมนี้ก็เช่นกัน แรชฟอร์ด เหมือนเครื่องยนต์ที่สตาร์ทแล้วไม่ติดเป็นบางครั้ง นั่นทำให้การลงมาของกรีนวู้ด ดูจะฟิตกว่า การออกตัววิ่ง และความกระหายในชัยชนะ ความกระหายในการเล่นมีมากกว่าเยอะเลย ตรงจุดนี้สร้างความแตกต่างได้อย่างที่เห็นน้องเค้าทำได้ในประตูที่สาม

เล่นตามช่องคาวานี่

แรชฟอร์ด แม้ว่าจะเล่นดี แต่หลายครั้งเราเห็นเล่นไม่ค่อยสอดคล้องกับคาวานี่ เท่าไร เหมือนภาษาบอลเค้าว่าไปคนละช่องนั่นแหละ แต่กับ กรีนวู้ด ดูนักเตะจะเล่นตามช่องประสานกับ คาวานี่ได้ดีกว่า บางทีเหมือนคาวานี่บอกช่องแล้วน้องทำตาม มันก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเอาอยู่ยากเหมือนกัน

มาร์คซิยาล ซีซั่นที่ต้องพัฒนาตัวเองโดยด่วน

มาร์คซิยาล ซีซั่นที่ต้องพัฒนาตัวเองโดยด่วน

แมนยูเคยเป็นทีมที่มีกองหน้าแบบคมๆอย่างไม่ขาดแคลน แต่มาช่วงหลังต้องบอกว่ากองหน้าที่มีอยู่ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ไว้ใจได้สักเท่าไร แต่การมาของ คาวานี่ มันเหมือนกับปลุกวิญญาณกองหน้าของแมนยู ให้กลับมาน่ากลัวอีกครั้งหนึ่ง การที่ฟอร์มของ คาวานี่ โดดเด่นขึ้นมา นั่นทำให้อีกคนหนึ่งต้องหงอยลงไป เค้าคนนั้นก็คือ อองโตนี่ มาร์ซิยาล ซีซั่นนี้ฟอร์มตกลงไปเยอะจนเราต้องบอกว่าพัฒนารีดฟอร์มด่วน

การย้ายไปเล่นปีก

ซีซั่นนี้ ต้องยอมรับว่า แฟนผีรู้สึกอุ่นใจกว่า เมื่อคาวานี่ได้ลงสนามในฐานะหน้าเป้า แทนที่ มาร์คซิยาล ที่ซีซั่นนี้เค้าถูกโยกไปเล่นปีกมากกว่าเดิม เรามองว่าที่โดนไปแบบนั้นเพราะว่า เค้าไม่เหมาะกับการเล่นศูนย์หน้าตัวเดียวที่ยืนชนกับกองหลังแล้วพลิกเล่น เค้าเหมาะกับการเล่นเป็นศูนย์หน้าแบบลากเลี้ยงเข้าหาคู่ต่อสู้ ต้องมีพื้นที่ให้วิ่งเพื่อสร้างความเร็ว คล่องตัว ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมันมีคนจองอยู่แล้ว

รีบพัฒนาก่อนทีมจะซื้อ

จากด้านบนเรามองว่า เค้าต้องรีบพัฒนาตัวเองในการเล่นปีกก่อนที่ทีมจะซื้อใครเข้ามา ซีซั่นนี้เค้าจะได้รับบทบาทเป็นเล่นเป็นปีกซ้ายในเวลาที่ แรชฟอร์ด ต้องขึ้นไปเล่นหน้าเป้า หรือ อาจจะได้เล่นปีกขวา ซึ่งตอนเล่นปีกซ้ายทำได้ดี แต่ว่าปีกขวา ทำได้ไม่ดีเลย ตรงนี้น่าห่วง เพราะถ้าหากทีมซื้อตัวทำเกมริมเส้นฝั่งขวาเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค กรีลิช หรือ เจดอน ซานโช่ เค้าจะมีโอกาสลงสนามน้อยลงมา สองคนนั้นน่าจะทำอะไรได้ดีกว่า

หาทางย้ายเพื่อลงสนาม

หากมาร์คซิยาล ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ในซีซั่นนี้ พูดกันตามตรงว่าทีมน่าจะซื้อคนอื่นมาเล่นแทน แล้วขายเค้าออกไป หรือมองอีกมุมหนึ่ง เค้าอาจจะต้องหาทางย้ายออกไปเพื่อสร้างโอกาสในการลงสนามให้กับตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งซีซั่นแล้ว แฟนผีที่ชื่นชอบหนูมาร์ค ก็อาจจะต้องให้กำลังใจกันหนักหน่อย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะแต่มีจุดต้องปรับแก้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะแต่มีจุดต้องปรับแก้

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถิติที่สุดยอดจริงๆของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับการชนะเวสต์แฮม เกมล่าสุดที่ผ่านมา ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยนะสำหรับการเล่นเกมนั้น เพราะว่าเวสต์แฮมเองก็มาดีเช่นกันการชนะ 2-1 เป็นการการันตีความยอดเยี่ยมของเวสต์แฮมด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การชนะนัดนี้ทำให้พวกเค้าทำสถิติชนะรวด 20 รายการเป็นสถิติที่ยากจะมีใครโค่นล้มได้ แต่ว่าในการชนะแบบหนืดๆนั้น มีประเด็นต้องปรับแก้เหมือนกัน

ระบบไร้กองหน้า สะท้อนกลับ

ก่อนหน้านี้เราอาจจะกังวลว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่มีกองหน้า ทั้งกุน และ เฆซุส จะเป็นอย่างไร ปรากฏว่าไม่เป็นปัญหาเลย เพราะว่าเค้าปรับมาใช้ระบบไร้กองหน้า มันก็ได้ผลดี แต่ว่าตอนนี้พอกองหน้ากลับมาแล้ว นั่นทำให้การเล่นดูติดๆขัดๆไปหมด เหมือนนักเตะจะชินกับระบบไร้กองหน้าไปแล้ว พอกองหน้าลงมาเหมือนเป็นตัวแถม เล่นแบบไร้ตัวตนมาก อันนี้ต้องดูว่าเป๊ป จะแก้นิสัยติดระบบไปแล้วอย่างไร จะเล่นแบบไร้กองหน้าเหมือนเดิม หรือ ปรับไปเล่นกองหน้า

นักเตะดูเหนื่อย ดูเนือย

เกมนี้นักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ส่งตัวเร็วๆ ตัวจิ๊ดๆลงมา นั่นทำให้เกมของพวกเค้าดูเหนื่อย และดูเนือยลงไปพอสมควร อันนี้ก็เข้าใจได้ เพราะว่าพวกเค้าลงเตะติดต่อกันถี่มาก จนนักเตะหลายคนล้าให้เห็น แต่บางคนก็ต้องเข็นลงไปเพื่อรักษาสมดุลเกม ปรากฏว่าสปีดเกม สปีดบอลของพวกเค้าดูช้าลงไปหลายจังหวะเหมือนกัน คงต้องรีบูทกันใหมอีกรอบ

การปิดเกมทำไม่ได้

โดยทุกที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซีซั่นนี้ไม่ได้เป็นทีมที่ยิงเยอะ แต่ยิงเพื่อชนะแล้วปิดเกมทันที เกมนี้กับเวสต์แฮม เค้ากลับทำแบบนั้นไม่ได้ การครองบอลเพื่อปิดเกมทำได้น้อยมาก ยิ่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ปล่อยให้เวสต์แฮม ทำเกมบุกเข้าใส่ ดีว่าลูกตั้งเตะสุดท้ายของเวสต์แฮมไม่เข้ากรอบ หากคนที่โหม่งลูกนั้นเป็น ซูเช็ค หรือ อันโตนิโอ นี่บอกเลยว่า โอกาสเข้ามีสูงมาก เกมต่อไปคงต้องรัดกุมมากกว่านี้

อะไรเป็นปัญหาของเชลซี ในเกมล่าสุด

อะไรเป็นปัญหาของเชลซี ในเกมล่าสุด

จะว่าเป็นเรื่องแปลกก็ได้ จะว่าบังเอิญก็ใช่ ไม่ว่าทำไมตั้งแต่เชลซีเปลี่ยนสปอนเซอร์บนหน้าอกเป็นเลข 3 ดูเหมือนทีมจะถูกโฉลกกับเลขตัวนี้ตลอด หากชนะ 3-0 มันก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ปัญหาก็คือพวกเค้าเสมอ 3-3 อีกแล้วนี่สิ อย่างล่าสุดพวกเค้ามาเจอสกอร์นี้อีกครั้งกับเกมเจอนักบุญเซาท์แธมป์ตัน หลังจบเกมนี้มีอะไรเป็นปัญหาที่เชลซีต้องแก้ไขบ้าง

เกมรุกลื่นไหล แต่ไม่หลอมรวม

เกมรุกในเกมนี้ของพวกเค้าต้องบอกว่า คมจัดมาก ติโม แวร์เนอร์ วันนี้เหมือนมงลง แอสซิสต์ 1 และ ยิงอีก 2 ประตู รวมถึง ไค ฮาร์แวตช์ กองกลางคนบ้านเดียวกันจัดไป 1 ประตู ฟอร์มของพวกเค้าดูร้อนแรงมากแต่ว่ากลับดูไม่หลอมรวมกันเท่าไร ในช่วงที่นำ 2-1 เหมือน แวร์เนอร์ จะเล่นฝืนไปในหลายจังหวะ เพื่อจะทำแฮตทริคให้ได้ ทำให้เกมรุกเสียของไปหลายครั้ง จนโดนตีเสมอ 2-2 นั่นแหละ ถึงจะกลับมาเล่นเป็นทีม ส่งบอลชิ่งกันไปมา เจาะทะลุช่องแป๊บเดียวได้ประตูที่ 3 มันคงจะดีถ้าหากทั้งหมดเล่นแบบนี้ตลอดทั้งเกม คงต้องติวกันให้ดี

เกมรับ รั่วทุกเกม

ตั้งแต่เปิดซีซั่นมา นับเฉพาะในลีคเกมที่ชนะคริสตัล พาเลซ 4-0 เป็นเกมเดียวที่เก็บคลีนชีตมาได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเกมรับของเค้ามีปัญหามาก คำว่า “ความผิดพลาดส่วนบุคคล” เกิดขึ้นแทบจะทุกเกมเลย เกมรับคริสตัล พาเลซ ก็มีแต่ไม่ทำให้เสียประตู เกมนี้เองก็เช่นกัน ความผิดพลาดของ เคิร์ท ซูม่า ที่คืนหลังพลาด บวกกับ เกป้า ก็เล่นพลาดอีก ทำให้เสียประตู 2-2 หรือจะย้อนไปลูกแรก ไค ฮาร์แวตช์ พลาดเสียบอล แล้วกองหลังเหมือนเหม่อ ไม่วิ่งเข้าประกบ แดนนี่ อิงส์ กองหน้าเซาท์ ทำให้เค้าหลุดไปยิงได้ง่ายๆ หากหวังจะไปไกล คงต้องขันน็อตเกมรับให้ดีกว่านี้

แทคติคส์ ปิดเกม

จริงๆอันนี้ถือว่าน่าแปลกใจ เชลซี ออกนำ 3-2 ตั้งแต่นาทีที่ 59 จริงอยู่ว่า พวกเค้าพยายามที่จะบุกเพื่อทำประตูเพิ่มให้ได้ จะได้ปิดเกมให้จบ แต่ว่าพอใกล้ท้ายเกม พวกเค้ากลับไม่มีวิธีการครองบอลเพื่อปิดเกมให้ได้เลย อันนี้ แฟรงค์ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ต้องเน้นผลการแข่งขันด้วย ไม่งั้นคงเกิดปัญหาแบบนี้อีกในเกมต่อๆไป

สรุปผลงานรายการยูโร 2020 ทัพ กระทิง(ไม่)ดุ สเปน

สรุปผลงานรายการยูโร 2020 ทัพ กระทิง(ไม่)ดุ สเปน

สำหรับทัพกระทิงดุ สเปน ตอนนี้พวกเค้าน่าจะอยู่ในช่วงการพัฒนาตัวเองให้กลับไปสู่ยุคทองอีกครั้ง นักเตะชุดนี้เป็นทีมที่ถ่ายเลือดใหม่มาตั้งแต่ครั้งจบฟุตบอลโลกคราวที่แล้ว เรื่องประสบการณ์อาจจะน้อย หรือ ตัวเลือกนักเตะอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตากันเท่าไร เรามาดูกันว่า ทัพกระทิง(ไม่)ดุ สเปนคราวนี้มีผลงานอย่างไรกันบ้าง

ผลการแข่งขัน

สเปนเดินทางเข้าสู่ยูโร 2020 ด้วยการเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี เพื่อนร่วมกลุ่มของเค้าก็คือ สวีเดน, สโลวัคเกีย และ โปแลนด์ ว่ากันตามตรง สเปน ไม่น่าจะยากเท่าไรในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเค้าเจอปัญหาปืนฝืดกองหน้าแทบไม่ยิงทำให้พวกเค้าเกือบไม่ผ่านเข้ารอบ ดีว่าเกมสุดท้ายพวกเค้ากลับมายิงเยอะเลยเบียดเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มไป มารอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเค้าเจอกับ โครเอเชีย ก็ดูว่าสเปน น่าจะเหนือกว่านิดๆแต่จังหวะฟุตบอลมันก็แบบนี้ พวกเค้าออกนำ 3-1 ช่วงนาทีที่ 77 แต่สิบนาทีสุดท้าย โครแอตไล่มาทัน 3-3 ต้องไปลุยต่อในช่วงต่อเวลายังดีที่ยิงได้เพิ่มอีก ปิดเกมชนะไปได้ หลุดมาเจอกับอิตาลี ที่เจอปัญหาเดิมอีก ยิงเค้าไม่ได้ สุดท้ายเสมอกันไป 1-1 คราวนี้ต้องไปจนถึงจุดโทษกลายเป็นอิตาลีที่นิ่งกว่า ส่งกระทิงกลับบ้านไป

นักเตะฟอร์มดี

คนแรกที่เราว่าฟอร์มดีมาก เป็น เอเมอริค ลาปอร์ต จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เค้ากลายเป็นกำแพงเหล็กคนใหม่ของสเปน เหลือแต่หาคนมาคู่ น่าจะทำให้ กองหลังสเปน แข็งแกร่งขึ้น คนที่สองเรายกให้กับ อูไน ซิมม่อน ผู้รักษาประตูที่เบียดขึ้นมายึดมือหนึ่งได้ หากไม่นับช็อตที่เล่นพลาดจนเสียประตูในเกมกับโครเอเชียที่เหลือก็ไม่ได้แย่เลย การเซฟจุดโทษก็ดีด้วย สถิติตลอดทั้งทัวร์ เล่นไป 6 เกม เซฟไป 9 ครั้ง คนอื่นอาจจะต้องเร่งฟอร์มหากหวังจะเบียดตำแหน่ง

อนาคต

ทัพกระทิงคราวนี้ หากจะมองน่าจะเป็นช่วงพัฒนาการ ยังไม่โตเต็มวัยเท่าไร เกมรุกก็ฝืด เกมรับก็ไม่นิ่ง ปิดเกมไม่ได้ตามต้องการ แต่แนวทางมาดีแล้ว ต้องดูว่าจะยกระดับก้าวข้ามตรงนี้ไปได้หรือไม่ ไม่งั้นฟุตบอลโลกคราวหน้าพวกเค้าอาจจะเป็นเพียงแค่ทีมรองบ่อนเท่านั้นเอง

ข้อดีของเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน ล่าสุด

ข้อดีของเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน ล่าสุด

ข้อดีของเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน ล่าสุด

เราเชื่อว่าแม้จะผ่านเกมมาได้หลายวันแล้ว แต่ความรู้สึกของแฟนผี ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนยังมูฟออน กับเกมที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน แบบที่ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแต่เอื้อมมือคว้าไว้ไม่ได้จริงๆ เราเองก็เช่นกัน สิ่งที่ทำให้เรามูฟออนกับเรื่องดังกล่าวได้ ก็คงเป็นเรื่องการมองหาข้อดีของเกมนี้กันบ้าง มีอะไรบ้าง

จิตใจที่สู้แบบไม่ถอย

เอาจริงๆก่อนเกมนัดนี้ เราเชื่อว่า โซลชา กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะติวลูกทีมหนักมากถึงความสำคัญของชัยชนะนัดนี้ เอาแค่เรื่องตารางคะแนนที่หากเอาชนะได้ ก็จะทำแต้มทาบจ่าฝูงอย่าง ซิตี้ แม้จะแข่งมากกว่าก็ตาม บวกกับวันที่ลงเตะ เป็นวันเดียวกับเกิดโศกนาฏกรรมมิวนิคด้วย นั่นทำให้การลงสนามนัดนี้นักเตะทุกคนสู้แบบไม่ถอยเลยทีเดียว สิ่งที่เราไม่ได้เห็นมานานก็คือ แม้ว่าโมเมนตั้มจะเป็นยังไง เสมอ 0-0 ออกนำ หรือ โดนแซงนำ ทุกคนก็สู้จนกว่าจะถึงนกหวีดสุดท้าย อันนี้เป็นภาพที่แมนยูไม่ได้เห็นบ่อยนัก

การเข้าทำที่หลากหลาย

ก่อนหน้านี้การเข้าทำของแมนยู อาจจะหลากหลายแต่ว่าหลายทีมก็เตรียมการบ้านมาดี ดักทางได้หมด ทีนี้เกมนี้ โซลชา เองก็รู้ว่า การเข้าทำแบบเดิมๆ อาจจะโดนดักทางได้ง่ายทำให้คราวนี้มีการเข้าทำที่มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการเปลี่ยนวิธีการบุกมาเป็นการบุกเพื่อครอสจากเส้นข้างให้ คาวานี่ เข้าทำ อันนี้เจ๋งจริง จนเป็นที่มาของประตูแรกที่คาวานี่ โหม่งเข้าไปอย่างสวยเลย

บรูโน่ กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง

แม้ว่าเกมนี้ ป็อกบา จะไม่สามารถเล่นได้ตลอดเกม ทำให้ออกจากสนามเร็วไป (จนเป็นส่วนหนึ่งให้โมเมนตั้มเปลี่ยนไปเข้าฝั่ง เอฟเวอร์ตัน) อย่างไรก็ตาม บรูโน่ แฟร์นันเดส เกมนี้เหมือนเค้าจะกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้งที่แฟนบอลคุ้นเคย การทำทั้งแอสซิสต์ และ ทำประตูได้ในเกมนี้ น่าจะเรียกความมั่นใจให้เค้ากลับมาได้เยอะเลย หวังว่าต่อจากนี้จะรักษาฟอร์มได้อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อไล่ล่าจ่าฝูงคืนมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทีมยอดแย่ช่วงนี้มีใครโดนกันบ้าง

ทีมยอดแย่ช่วงนี้มีใครโดนกันบ้าง

แต่ละสัปดาห์สำนักข่าวจะมีการจัดอันดับโน่นนี่มากมายเพื่อเป็นการสรุปภาพรวมของการแข่งขันลีคแต่ละสัปดาห์นั้นด้วย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา การจัดอันดับที่ไม่มีใครอยกเข้าไปอยู่คือทีมยอดแย่ประจำสัปดาห์ เพราะนั่นหมายถึงเครื่องสะท้อนว่าฟอร์มการเล่นของเราไม่ดีเลย ไปดูกันว่าช่วงนี้มีใครกันบ้าง

ผู้รักษาประตูและแนวรับ
ผู้รักษาประตูที่หลายฝ่ายลงความเห็นว่า ตอนนี้ฟอร์มตกอย่างมาก เป็น เกป้า อาร์ริซาลาลาก้า ของเชลซี นายทวารที่มีค่าตัวแพงคนนี้ ซีซั่นนี้ต้องบอกว่าการเซฟลูกยากมีให้เห็นน้อยมาก จนแฟนบอลบอกว่าตรงเป็นตุงกันเลยทีเดียว เกมเสมอกับ อาร์เซนอล 2-2 เจ้าตัวเซฟแทบไม่ได้เลย ขยับมาที่แนวรับ แมกไกรว์ จากแมนยูเข้ามาติดด้วยในเกมที่แพ้เบิร์นลี่ย์ เค้าพลาดเองทั้ง 2 ลูก ต่อมาอันเจโล อ็อกบอนน่าของเวสต์แฮมแม้จะได้ชื่อว่าเป็นกองหลังจากอิตาลี แต่เกมล่าสุดเค้าคือบ่อน้ำมันชั้นดีเลย ส่วนอีกสองเป็น ดาวิด ลุยซ์ กับ มุสตาฟี่ จากอาร์เซนอล ในความผิดพลาดของเกมนั้น คงว่าใครไม่ได้จริงๆ

กองกลาง
คนแรกในกองกลางถือว่าน่าเห็นใจเหมือนกัน กองเต้ จากเชลซี เค้าเล่นดีตลอดในเกมเจออาร์เซนอล แต่มาพลาดลื่นให้ อีกฝ่ายเลี้ยงผ่านไปยิงประตูได้ เลยต้องมาติดโผนี้ด้วย เปเรยร่าของแมนยู เกมนี้เหมือนกับอีกหลายครั้งที่โยนโอกาสของตัวเองทิ้งไป สร้างอันตรายและสร้างเกมรุกไม่ได้เลย สามปาสกาล กรอสส์ จากไบร์ทตัน ต้องเสียใจด้วยที่ทำเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย แต่ยอมรับว่าตลอดทั้งเกม เค้าทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง

กองหน้า
มาร์กซิยาล แม้ว่าจะได้กลับมาเล่นเป็นศูนย์หน้า แต่ความเฉียบขาด สัญชาติญาณหายไปหมด พลาดโอกาสไปหลายครั้งแบบไม่น่าให้อภัย เซซุส จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้เองก็เช่นกัน เล่นตลอดทั้งเกมไม่ได้ประตู ขนาดยิงจุดโทษก็ยังไม่เข้า พอ กุน ลงมาเข้าเลย มันก็เปรียบเทียบได้เห็นผลอยู่ อีกคนเป็น เชงค์ โตชุนของ พาเลซ ลงไปเหมือนทำให้คนครบ 11 คนเท่านั้นเองไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย หวังว่าสัปดาห์ต่อไปนักเตะในโผนี้จะดีขึ้นนะ

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ความยากที่ต้องทำอีกครั้ง

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ความยากที่ต้องทำอีกครั้ง

ถามว่าใครเป็นทีมที่ต้องใช้คำว่า ก้างขวางคอ มากที่สุดที่ทำให้ทีมใหญ่ หลายทีมต้องสะดุดก็คือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เกมรับของพวกเค้าถือว่าเป็นทีมที่เล่นเป็นระบบมากทีเดียว หลายครั้งสามารถแย่งแต้มจากทีมใหญ่ จนมีลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์กับเค้าด้วย น่าเสียดายว่า ยืนระยะไม่ถึงโค้งสุดท้ายเลยพลาดไปตกอยู่อันดับ 9 มาดูกันว่าซีซั่นนี้พวกเค้าหวังอะไรบ้าง
อันดับในลีคที่ยากกว่าเดิม
มองไปที่ในลีคก่อน ซีซั่นที่แล้ว เค้าจบอันดับที่ 9 ถือว่าทำได้ดีทีเดียว แต่ว่าซีซั่นที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ พวกเค้าจะทำอันดับได้ยากกว่าเดิมอีก เนื่องจากผู้รักษาประตูตัวยืมแต่โคตรเก่งอย่าง ดีน แฮนเดอร์สัน ถูกดึงตัวกลับไปแล้ว ทำให้พวกเค้าจะมีนายด่านที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ทีมอื่นโหดกว่าเดิมนะ นั่นทำให้เราคิดว่า เป้าหมายของ เชฟฟิลด์ หากอยู่ครึ่งบนของตารางได้ (ไม่เกินอันดับ ที่ 10 ) ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถ้าหากเกมรับแข็งไม่พอ แล้วนายด่านรับไม่ไหว บอกเลยว่าพวกเค้ามีสิทธิ์งานเค้าไปตื่นเต้นในพื้นที่ใกล้ๆโซนตกชั้นได้เหมือนกัน

เกมบอลถ้วย

มามองที่เกมบอลถ้วยกันบ้าง หากจะหวังอะไรสักอย่าง มองว่า ทีมกลางตารางแบบนี้ ถ้าดวงไม่โหดร้ายจนเกินไป ถ้วยลีคคัพ หรือ ถ้วยคาราบาวคัพ พวกเค้าคงมีความหวังได้บ้าง ในวงเล็บว่าถ้ารอดไปถึงตอน 4 ทีมสุดท้าย แต่เราเชื่อว่าไม่น่าจะรอดไปถึงตอนนั้น อย่างเก่งรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ถือว่าประสบผลแล้ว ส่วนเกมเอฟเอคัพดูทรงไม่เกินรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แม้จะดูโหดร้าย แต่คงทำได้แค่นั้น เชฟฟิลด์ น่าจะเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มกับเกมในลีคมากกว่า
ส่วนเกมฟุตบอลยุโรป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ไปร่วมวงไพบูลย์กับเค้าด้วย เอาเป็นว่าคุณภาพของทีมตอนนี้บอกตามตรงว่าไปเล่นก็ยังไม่เหมาะเท่าไร ทีนี้ก็มาลุ้นกันว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะใช้ระบบแบบเดิมที่ผ่านมาเอาตัวรอดได้แค่ไหน

 

เมื่อแมนยู เริ่มขยับในตลาดซื้อขาย (สักที)

แมนยู

มองไปที่ตลาดซื้อขายนักเตะ น่าจะเป็นข่าวดีที่แฟนปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอคอยมานานสักที กับดีของ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หากไม่มีอะไรผิดพลาด เชื่อว่าไม่เกิน 1-2 วันนี้ แฟนผีน่าจะได้อ่านเรื่องราวของกองกลางคนใหม่ของพวกเค้าอย่างสนุกมือทีเดียว ว่าแต่ทำไมแมนยูที่เงียบมาตลอดเพิ่งจะมาขยับเอาตอนนี้

ไม่สนใจ ซานโช่ แล้ว

ตอนแรกที่มีข่าวกับซานโช่ หนักๆ เราเชื่อว่า แมนยู คงต้องการจะปิดดีล เอามาให้ได้เลย เพราะนอกจากจะมีผลในสนามอย่างเห็นได้ชัดแล้ว อีกเรื่องเป็นเพราะว่ามันจะมีผลนอกสนามในดีลต่อไปด้วย ประมาณว่ามันจะดึงดูด โน้มน้าวนักเตะคนอื่นได้มากกว่า ง่ายขึ้นด้วย แต่ดูทรงตามนี้เหมือนดีลซานโช่ จะล้มลงไปแล้ว มันก็เลยทำให้ แมนยูนำโดย เอ็ด ต้องรีบวิ่งโดยด่วน ก่อนที่จะพลาดไม่ได้ใครเลย ส่วนเรื่องค่าตัวก็พร้อมจ่ายเลยเพราะไม่ได้ทุ่มตรงนั้น

รีบซื้อก่อนจะไม่ได้ซื้อ

ตอนนี้ตลาดนักเตะน่าจะเข้าสู่ช่วงก่อนจะโค้งสุดท้ายของตลาดกันแล้ว อย่าลืมว่าตลาดนักเตะรอบนี้จะพิเศษกว่าครั้งอื่นตรงที่ว่าเวลาพักมันสั้น ทำให้การซื้อขายต้องไว หากช้าบอกเลยว่าคนขายก็ไม่อยากขายเพราะหาคนมาแทนไม่ทัน คนซื้อก็ต้องรีบเอาไปจูนให้เข้าที่กับทีมให้ไวกว่าเดิม หากมัวแต่ช้าบอกเลยว่าแม้จะมีเงิน แต่เค้าก็ไม่อยากจะขายให้ ก็ไม่ได้ซื้อนั่งกอดเงินตัวเองเล่นไปอย่างนั้น

ฤดูกาลใกล้จะเปิด

อย่างที่บอกไปว่าตอนนี้ ซีซั่นใกล้จะเปิดแล้วอีกไม่เกิน 10 วัน หากจะซื้อใครต้องรีบแล้วเพื่อเอานักเตะใหม่ไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมโดยเร็ว ยังไม่นับเรื่องการตรวจโควิท 19 ของแต่ละทีมที่จะต้องจัดการอีก หากซื้อมาแล้วต้องโดนกักตัวอีก 14 วันมันก็เสียโอกาสไปอีก ดังนั้นเลยไม่แปลกที่ดีล ฟานเดอ บีค จะต้องเร็ว และพร้อมจ่ายในราคาตามต้องการเพื่อจะได้เอานักเตะไปซ้อมให้เร็วที่สุด

การตัดจบของลีคเอิง ถือว่าตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่

Red Paper Football Quote UAAP_NCAA Instagram Post
มองไปที่สถานการณ์โลกตอนนี้กับโควิท 19 ถือว่าดีขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยในภาพรวมที่หลายประเทศมีการระบาดอย่างหนักก็ผ่อนคลายลงเยอะทั้งในตัวเลขผู้ติดเชื้อ ตัวเลขการรักษาตัว และ ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว จึงไม่แปลกที่รัฐบาลแต่ละประเทศจะมีการผ่อนปรนมาตรการบางอย่างเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจแย่ไปกว่านี้ อย่างไรก็ตามหนึ่งในเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อก็คือ การตัดจบลีคเอิง ลีคฟุตบอลใหญ่ของยุโรปจากประเทศฝรั่งเศสไป
ลีคเองตัดจบ จากการประกาศของรัฐบาล
ย้อนกลับไปช่วง 1 เดือนก่อน ตอนนั้นในยุโรปมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเยอะมาก จึงไม่แปลกที่หลายประเทศจะต้องล็อคดาวน์และงดจัดกิจกรรมที่จะทำให้มีคนมารวมกันมากๆออกไป ฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในนั้น ทางรัฐบาลเองตอนนั้นไม่มีทางเลือกต้องสั่งให้ปิดลีคเอิงไป ห้ามให้มีการจัดอีเวนต์กีฬาและอื่นๆอีกเลยจนถึงเดือน กันยายน ซึ่งผลของการตัดจบลีคเอิงในครั้งนี้ ทำให้พวกเค้าต้องเลือกการใช้วิธีการคิดคะแนนเฉลี่ยเพื่อจัดอันดับ ปรากฏว่าเป็นทาง ปารีส ได้แชมป์ลีคไปครองจากคะแนนเฉลี่ย 2.52 ตามมาด้วยทีมที่ได้โควตา UCL อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย, แรนส์ ส่วนทีมตกชั้นเป็นอาเมียงส์ และ ตูลูส ซึ่งผลวิธีการคิดจะใช้กับลีคตั้งแต่บนลงไปทั้งหมดทั้งการเลื่อนชั้นของลีคต่ำกว่าด้วย
การตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่
มองในเรื่องของการจัดการ ถือว่าเป็นการเคลียร์ทุกอย่างได้ลงตัวดีอาจจะเป็นเพราะว่าอันดับสำคัญอย่างแชมป์ กับตกชั้น มันค่อนข้างห่าง ชัดเจนแบบไม่ต้องคิดยังไงก็ต้องโดนแน่นอน แต่คำถามก็คือว่าการตัดจบไปก่อนคนอื่นนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือเปล่า เพราะต้องยอมรับว่าหากพวกเค้ายังไม่ปิดลีคไปตอนนี้พวกเค้าก็อาจจะวางแผนกลับมาเตะกันอีกครั้งก็ได้ ส่วนตัวมองว่าพวกเค้าทำผิดพลาด ตัดสินใจเร็วกันไปหน่อย พอคนอื่นไม่ปิดแต่ตัวเองปิด มันเลยเหมือนว่าลีคเอิง ขาดมาตรฐานไป จนดูเหมือนตัวตลกอย่างที่นักเตะบางคนออกมาให้สัมภาษณ์จริงๆ